อเมริกาและแคลิฟอร์เนีย
"ไบเดน" ลงนามคำสั่ง “สกัดโควิด” สิบฉบับรวด


แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : “ไบเดน” ลงนามคำสั่งปราบโควิด-19 ในประเทศ 10 ฉบับรวดหลังเข้ารับตำแหน่ง เป็นการ “เอาจริง” ในการปราบโควิดของทำเนียบขาวครั้งแรกในรอบปี

หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เพียงหนึ่งวัน โจ ไบเดน ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี (executive orders) ซึ่งถือเป็นกฎหมายที่ไม่ต้องผ่านเห็นชอบของรัฐสภา จำนวน 10 ฉบับในวันที่ 21 มกราคม โดยคำสั่งพิเศษทั้งสิบฉบับ มีเนื้อหาเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ

ข่าวบอกว่าคำสั่งพิเศษดังกล่าว มีตั้งแต่การกำหนดให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยที่สนามบิน, สถานีรถไฟ และสถานีบัส, กำหนดให้ลูกจ้างและผู้รับเหมาของรัฐบาลกลางในทุกรัฐ ต้องสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างระหว่างกันขณะอยู่สถานที่ของรัฐบาล ฯลฯ

นอกเหนือจากคำสั่งพิเศษทั้งสิบฉบับแล้ว ข่าวบอกว่าประธานาธิบดี ไบเดน มีกำหนดจะลงนามในคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่มีการวางตัวเอาไว้ก่อนแล้ว เพื่อทำหน้าที่เร่งรัดกระบวนการตรวจหาผู้ติดเชื้อ, แก้ปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ตรวจเชื้อ, การให้ข้อมูลแก่ผู้เดินทางระหว่างประเทศ รวมทั้งการโอนงบประมาณจากกองทุนภัยพิบัติแห่งชาติเพื่อช่วยเหลือชุมชนของคนกลุ่มน้อยในสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ขณะเดียวกัน ไบเดนจะเพิ่มเจ้าหน้าที่ ทั้งของรัฐบาลกลาง และบุคลากรทางการแพทย์ อีกหลายพันคนเพื่อเร่งให้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่ประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ พลาดเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้แก่ชาวอเมริกันจำนวน 20 ล้านคนภายในปี 2020

ข่าวบอกด้วยว่า ประธานาธิบดีไบเดนยังเตรียมปัดฝุ่นกฎหมายเก่าแก่ที่เคยใช้ในสมัยสงครามโลก ชื่อ Defense Production Act เพื่อเร่งการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมถึงการผลิตชุดป้องกันเชื้อโรค (PPE), ชุดตรวจสอบโควิด และมีการจัดสรรวัตถุดิบในการผลิตวัคซีนอย่างเพียงพอ

ทั้งนี้ กฎหมายการผลิตยามสงครามจะให้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐในการสั่งการให้บริษัทต่างๆทำการผลิตในสิ่งที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจะทำให้สหรัฐได้รับวัตถุดิบที่มีความจำเป็นในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19.

ทั้งนี้ โจ ไบเดนเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันพุธที่ 20 มกรา ซึ่งเป็นวันที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ ยังคงสูงสุดในโลก กล่าวคือมียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 24.38 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 404,000 ราย.




 




นำเสนอข่าวโดย : ทีมข่าว สยามทาวน์ยูเอส,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข