เอพีรายงานข่าวเมื่อวันที่ 16 มีนาคมว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแผนปรับขึ้นภาษีครั้งใหญ่เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายสำหรับโครงการด้านเศรษฐกิจระยะยาว โดยจะพิจารณาปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 21% เป็น 28% และปรับขึ้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 4 แสนดอลลาร์ต่อปีขึ้นไป
ข่าวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีการคาดการณ์ว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯ อาจต้องปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากผู้ที่มีรายได้สูงเพื่อรองรับการใช้จ่ายดังกล่าว
ทั้งนี้ หากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจปรับขึ้นภาษีจริง ก็จะนับเป็นการปรับขึ้นภาษีส่วนกลางครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี หลังจากที่เคยมีการปรับขึ้นภาษีครั้งใหญ่ในปี 1993 ในสมัยของประธานาธิบดี บิล คลินตัน.