สำนักงานคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่ง (The Transportation Security Administration) หรือ TSA ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลาง ออกประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 30 เมษายน 2021 ว่าจะยืดเวลาบังคับใช้ระเบียบเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย ออกไปจนถึงวันที่ 13 กันยายน 2021
โดยระเบียบเรื่องการใส่หน้ากากฯ ดังกล่าว ทีเอสที ระบุว่ามีผลบังคับใช้กับ “บริเวณสนามบิน, เครื่องบินพาณิชย์, บนรถบัสโดยสาร และรถไฟ”
ทั้งนี้ คำสั่งเรื่องการใส่หน้ากากขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะดังกล่าว ทีเอสเอ ออกบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2020 โดยมีกำหนดยกเลิกในวันที่ 11 พฤษภาคม 2021
ทีเอสเอ ระบุด้วยว่า คำสั่งดังกล่าว จะยกเว้นเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี และบุคคลทุพพลภาพบางกลุ่มเท่านั้น หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกปรับ 250 ดอลลาร์ โดยค่าปรับจะเพิ่มเป็น 1,500 ดอลลาร์หากเป็นการฝ่าฝืนระเบียบซ้ำสอง
การยืดเวลาบังคับใช้ระเบียบเรื่องการใส่หน้ากากระหว่างใช้บริการขนส่งสาธารณะของ ทีเอสเอ ดังกล่าว สอดคล้องกับคำแนะนำของ ซีดีซี ที่ยังคงแนะนำให้ผู้เดินทางใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและหมั่นล้างมือ ต่อไป แม้จะได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วก็ตาม
คำแนะนำของ ซีดีซี ยังบอกด้วยว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนและหลังการเดินทาง เว้นเสียแต่เป็นระเบียบของเมืองปลายทาง ส่วนการกักตัวเมื่อเดินทางถึงปลายทางแล้ว ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป.