ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) แถลงเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้พุ่งขึ้นในทุกรัฐของอเมริกา อันเป็นผลมาจากความร้ายแรงของไวรัสสายพันธุ์เดลตา ที่มีอัตราการแพร่เชื้อได้รุนแรงกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 43-90 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อัตราการเข้ารับการฉีดวัคซีนของประชาชนได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง  

โดยซีดีซี ประเมินว่า ขณะนี้สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาคิดเป็น 83 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด สูงขึ้นมากกว่าระดับ 50 เปอร์เซ็นต์ ที่พบในช่วงสัปดาห์ระหว่าง 27 มิถุนายน-3 กรกฎาคม อีกทั้งยังทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเกือบ 48 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้

การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธ์ุเดลต้า ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 43-90 เปอร์เซ็นต์ บวกกับพฤติกรรมต่อต้านวัคซีนของชาวอเมริกันจำนวนมาก (มีผู้เช้ารับการฉีดวัคซีนแล้วประมาณ 65.9 เปอร์เซ็นต์) เป็นเหตุให้สหรัฐฯ ยังคงติดอันดับ 1 ของโลกต่อไป ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 35 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 626,000 ราย

ทั้งนี้ รัฐหลุยเซียนา อาร์คันซอ มิสซูรี ฟลอริด้า และเนวาดา เป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยทุกรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่า โดยทุกรัฐดังกล่าว เป็นรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในอัตราต่ำ โดยเฉพาะรัฐหลุยเซียนา มีอัตราการฉีดวัคซีนเพียง 47 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น.