เว็บไซต์ WebMD รายงานเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ถึงผลวิจัยของมหาวิทยาลัยนอร์ธ เวสเทิร์น ในชิคาโก้ ระบุว่า การดื่มกาแฟและรับประทานผักเป็นประจำ อาจช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้
"โควิด-19 เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีส่วนสำคัญในการต่อสู้กับโรคติดเชื้อเช่นนี้ และโภชนาการส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของเรา" รองศาสตราจารย์แมร์ริลิน คอร์เนลิส นักวิจัยอาวุโสแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธ เวสเทิร์น ระบุ
การวิจัยฉบับนี้ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารของประชาชนในสหราชอาณาจักรเกือบ 38,000 รายตั้งแต่ปี 2005 จนถึงปัจจุบัน (โดยใช้ฐานข้อมูลของ UK Biobank) เพื่อให้ทราบว่า อาหารประเภทไหนบ้างที่มีความสัมพันธ์กับภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ผู้ทำวิจัยยังมีการศึกษาพฤติกรรมการบริโภคอาหารจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงธันวาคม 2020 ด้วย
โดยผลการศึกษาข้อมูลพบว่า การดื่มกาแฟอย่างน้อยวันละ 1 ถ้วยมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ที่ลดลงถึง 10 เปอร์เซ็นต์ แต่การดื่มชาไม่มีผลแต่อย่างใด
โดยผู้ทำวิจัยให้เหตุผลว่ากาแฟมีสารคาเฟอีนมากกว่าชาถึง 2 เท่า ดังนั้นจึงคาดว่าความแตกต่างอาจมาจากปริมาณคาเฟอีน หรือสารประกอบบางอย่างที่มีเพียงในกาแฟเท่านั้น
นอกจากนี้ ผลวิจัยยังพบว่าการกินผักก็มีส่วนสัมพันธ์กับความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ที่ลดลง ด้วย ตรงกันข้ามกับการกินเนื้อสัตว์ ที่แม้จะกินเพียงเล็กน้อยแต่ก็ส่งผลเรื่องความเสี่ยงที่สูงขึ้น.