เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นทั่วประเทศ จ่ายเงิน 100 ดอลลาร์ให้กับประชาชนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมกับขอให้หน่วยงานของรัฐบาลกลาง ออกกฎข้อบังคับให้พนักงานของรัฐ ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนด้วย ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ลามของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่กำลังเข้าขั้นวิกฤตอีกครั้ง
"ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพราะไม่ฉีดวัคซีน ถือเป็นโศกนาฏกรรมของอเมริกา” ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวถึงอันตรายของผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และว่า “ผู้คนกำลังล้มตาย รวมถึงคนที่ไม่สมควรตาย ก็จะตายลงเช่นกัน”
ต่อมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้แถลงถึงแผนกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน โดยการขอความร่วมมือกับรัฐบาล ทั้งระดับรัฐและระดับท้องถิ่น ให้จ่ายเงินให้ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 รายใหม่ทุกคน คนละ 100 ดอลลาร์ โดยเงินก้อนนี้ จะมาจากกองทุนบรรเทาโรคระบาดมูลค่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์ ตามแผน American Rescue Plan ที่ผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรสเมื่อต้นปีนี้
“วันนี้ ประธานาธิบดี ได้เรียกร้องให้ทุกรัฐ ทุกเขตปกครอง และรัฐบาลท้องถิ่นให้มอบเงิน 100 ดอลลาร์สำหรับชาวอเมริกันทุกคน ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน ตามเจตนารมณ์ในการกระตุ้นยอดผู้ฉีดวัคซีนให้มากขึ้น เพื่อปกป้องชุมชนและรักษาชีวิต” แถลงการณ์ของกระทรวงการคลัง ระบุ
แถลงการณ์ ระบุด้วยว่า ทางกระทรวงฯ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคกับรัฐและส่วนปกครองท้องถิ่น เพื่อให้การใช้เงินกองทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพในการเพิ่มจำนวนผู้ฉีดวัคซีนให้มากขึ้นในแต่ละชุมชน
ท่าทีดังกล่าว เกิดขึ้นในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในแทบทุกรัฐ กำลังชะลอตัวลง พร้อมๆ กับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมถึงจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาล กำลังเพิ่มขึ้นในหลายๆ พื้นที่
จนถึงขณะนี้ มีชาวอเมริกันที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วเพียงแค่ 57.1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ถือว่ายังห่างไกลจากภูมิคุ้มกันหมู่ หรือ herd immunity ที่เชื่อกันว่าจะทำให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยุติลงอย่างถาวร โดยภูมิคุ้มกันหมู่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประชากรอย่างน้อย 75 เปอร์เซ็นต์มีภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนแล้ว
ทั้งนี้ แนวคิดของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่เข้าข่าย “จ้างฉีดวัคซีน” ดังกล่าวนี้ ข่าวบอกว่าอาจเป็นทางออกของรัฐและส่วนปกครองท้องถิ่นต่างๆ ที่ไม่ต้องการออกกฎบังคับฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง แม้ว่าหลายๆ ภาคส่วนเริ่มลงมือทำแล้ว ทั้งหน่วยงานของรัฐบาลกลาง และส่วนท้องถิ่น เช่นเทศบาลเมืองลอส แอนเจลิส, ลองบีช, พาซาดีน่า, นิวยอร์ก รวมถึงมหาวิทยาลัยของรัฐแคลิฟอร์เนีย ทั้งยูซี และยูเอสซี และองค์กรธุรกิจใหญ่ๆ เช่นกูเกิล เฟสบุ๊ก ฯลฯ
ข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่าผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 นับจากต้นปีที่ผ่านมา เกือบทั้งหมด (99.2 เปอร์เซ็นต์) คือผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน.