โดย: ภาณุพล รักแต่งาม

แอลเอไทมส์ รายงานข่าวเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงเหตุการณ์ “ทุบกระจกร้านเพื่อขโมยข้าวของ” หรือ smash-and-grab robberies ที่กำลังเป็นปัญหาที่เพิ่มมากขึ้นทั่วเมืองลอส แอนเจลิส ในช่วงที่ผ่านมา โดยบอกว่าไม่ใช่เพียงร้านค้าระดับไฮเอ็น หรือร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม เท่านั้น แต่ธุรกิจขนาดเล็ก รวมถึงร้านอาหารก็ตกเป็นเหยื่อของการทุบกระจกร้านเพื่อบุกเข้าไปขโมยข้าวของด้วย

ไทมส์บอกว่า ร้านไอยรา ไทย คูซีน (Ayara Thai Cuisine) ในเมืองเวสท์เชสเตอร์ ของเชฟแวนด้า อัศพาหุ เชฟไทยที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในแวดวงอาหารของเมืองลอส แอนเจลิส เป็นหนึ่งในรายอาหารหลายๆ ร้านที่ถูกทุบกระจกในช่วงที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.06 น. เช้ามืดของวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ภาพจากกล้องวงจรปิดทำให้เห็นว่าคนร้ายใส่เสื้อมีฮูด และใส่หน้ากาก คาดว่าเป็นผู้ชาย ได้ขว้างก้อนหินใส่ประตูกระจกหน้าร้านไอยรา จากนั้นถีบกระจกที่แตกร้าวจนแตกเป็นช่องแล้วมุดเข้าไปในร้าน

โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ คนร้ายได้เศษเหรียญในม้วนกระดาษ มูลค่า 30 ดอลลาร์ และเงินสดประมาณ 100 ดอลลาร์ ที่ถูกซุกเอาไว้ในตู้เอกสาร ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มชาไทย (Thai iced tea) อีกสองขวด

“เราไม่ได้เก็บเงินสดเอาไว้ในร้านตอนกลางคืน แล้วลูกค้าส่วนใหญ่ก็จ่ายด้วยระบบดิจิตอล หรือใช้บัตรทั้งนั้น” เจ้าของร้านกล่าว

เหตุการณ์ร้ายครั้งนี้ ร้านข้างเคียงได้โทรแจ้งเชฟแวนด้าในตอนเช้า ซึ่งเธอและครอบครัว รวมถึงผู้จัดการร้าน ได้เดินทางมาที่ร้านทันที มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และโทรแจ้งความกับแอลเอพีดี แต่ไม่สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรับแจ้งความได้ จึงวางสาย และตั้งใจว่าจะแจ้งความในภายหลัง

เชฟแวนด้า ซึ่งไม่รู้สึกตื่นเต้นตกใจอะไรมากนักกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กล่าวกับแอลเอไทมส์ว่า อย่างน้อยเรื่องก็ไม่เลวร้ายมากกว่าที่ควรเป็น เพราะไม่มีใครบาดเจ็บ ไม่มีของมีค่าหรือของสำคัญถูกหยิบฉวยไป

“มันเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจไปแล้ว มันน่าเศร้านะที่ต้องคิดแบบนั้น แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินไป คิดมากเกินไปก็ไม่ได้อะไรกลับมา และคุณจะเสียเวลาด้วย” 

เชฟแวนด้าบอกด้วยว่า ช่วงเวลาที่ร้านอาหารถูกทุบเพื่อบุกเข้ามาปล้น มันเกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันขอบคุณพระเจ้าและคริสต์มาส

ที่ผ่านมา ร้านไอยรามีระบบเตือนภัย แต่เชฟแวนด้าบอกว่าค่าบริการที่ต้องจ่ายเป็นรายเดือน บวกกับค่าใช้จ่ายที่ถูกคิดเพิ่มหากอลาร์ม ซึ่งเซ็นซิทีฟมากเกิดดังขึ้นมาโดยไม่มีเหตุร้ายใดๆ ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อปีค่อนข้างสูงกว่าการเปลี่ยนกระจกบานที่ถูกทุบแตกไป

ข่าวบอกว่าประตูกระจกถูกเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อยเมื่อเวลา 16.00 น. โดยทางร้านไอยราต้องจ่ายเงินไปประมาณ 500 ดอลลาร์

"มีเพื่อนถามว่า ไม่อยากจะติดเหล็กดัด หรือติดประตูเหล็กม้วน (rolling gates) หรือ” เชฟแวนด้าเล่า และว่าเธอตอบเพื่อนว่าคงไม่ทำเช่นนั้น  “เพราะทันทีที่เราทำ ร้านใกล้ในย่านนี้ก็จะทำตาม แล้วย่านนี้ก็จะเปลี่ยนไปเลย ซึ่งดิฉันไม่ชอบเลย แล้วเรื่องนี้มันเกิดแค่ปีละครั้ง แถมไม่มีอะไรสูญเสียมากมายด้วย คล้ายๆ กับว่าดิฉันได้รวมเรื่องนี้เอาไว้ในแผนธุรกิจแล้ว คือเราจะเปลี่ยนกระจกทุกปี หากมีรอยขูดที่กระจก ก็ไม่ต้องห่วง เราจะรีบเปลี่ยนมัน อาจจะในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี” เชฟแวนด้าเล่า

ไทมส์อ้างข้อมูลจาก แอลเอพีดี ด้วยว่า ตัวเลขอาชญากรรมในเขตเมืองแอลเอ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2.6 เปอร์เซ็นต์ แต่ถือว่าลดลงถึง 6.6 เปอร์เซ็นต์จากปี 2019 โดยอ้างคำกล่าวของหัวหน้าตำรวจแอลเอ ไมเคิล มัวร์ ด้วยว่า ทางสำนักงานตำรวจเชื่อว่าร้านอาหาร ก็เป็นสถานประกอบการที่ตกเป็นเป้าหมายของคนร้ายกลุ่ม smash-and-grab เช่นกัน

อย่างไรก็ดี  ไทมส์ บอกด้วยว่าโฆษกของสำนักงานตำรวจเมืองแอลเอ และสำนักงานตำรวจเมืองซานตามอนิก้า พูดตรงกันว่าทางหน่วยงานของตน ไม่มีข้อมูลใดๆ ที่ชี้ว่าการทุบร้านอาหารในพื้นที่รับผิดชอบ กำลังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งดูเหมือนจะ “สวนกระแส” กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้น โฆากของสำนักงานตำรวจแอลเอ บอกว่าเป็นเพราะมีเพียงร้านอาหารส่วนน้อยเท่านั้น ที่เข้าแจ้งความให้เจ้าหน้าท่ีตำรวจรับทราบถึงเหตุการทุบกระจกร้านที่เกิดขึ้น ด้วยเห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่มีความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน และที่สำคัญ มองว่าเป็นการ “เสียเวลา” ทำมาหากิน...

การทุบกระจกร้าน ถือว่าเป็นสถานการณ์อันตราย ที่กำลังเพิ่มมากขึ้นทั้งในลอส แอนเจลิส และอีกหลายเมืองของแคลิฟอร์เนีย เสิรมจากการฉีดพ่นสี หรือขูดขีดกระจก อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมายาวนาน

จะรับมืออย่างไร จะเสียเวลาไปแจ้งความหรือไม่ อยู่ที่ดุลย์พินิจของพวกเราเอง...