เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2022 นิวเจอร์ซี่ ได้กลายเป็นรัฐล่าสุดของอเมริกาที่เปิดเสรีกัญชาเพื่อนันทนาการ (recreational marijuana) ถือเป็นรัฐที่ 18 ของอเมริกา ที่ประชาชนสามารถซื้อหาสินค้ากัญชามา “พี้” เล่นได้อย่างเสรี
ตลอดปี 2021 ที่ผ่านมา ตลาดกัญชาเพื่อนันทนาการของอเมริกา มีมูลค่าเกือบ 15 พันล้านดอลลาร์ และเชื่อว่าจะผ่าน 25 พันล้านภายในปี 2025
แต่ปัญหาใหญ่ของอุตสาหกรรมกัญชาอเมริกาในเวลานี้ คือกฎหมายของรัฐบาลกลาง ยังถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติดประเภทหนึ่ง (a Schedule I drug) เหมือนกับเฮโรอีนและแอลเอสดี ไม่ยอมรับแม้กระทั่งเหตุผลทางการแพทย์ ดังนั้นจึงเกิดความลักลั่น หรือติดขัดในอุตสาหกรรมกัญชาอยู่มาก
เห็นชัดที่สุดคือธนาคารใหญ่ทั่วไป ไม่สามารถเปิดบัญชี หรือทำธุรกรรมใดๆ กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชาได้ เพราะถือเป็นธุรกิจต้องห้ามตามกฎหมายของรัฐบาลกลาง หรือกระทั่งการส่งสินค้าข้ามรัฐ ก็อาจทำให้เจ้าของธุรกิจต้องคดีอาญา ฯลฯ กลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการเติบโตของอุตสาหกรรมกัญชาอยู่ในเวลานี้
เมื่อปี 2013 อดีตประธานาธิบดี บารัก โอบาม่า มีคำสั่งกระทรวงยุติธรรม ต้นสังกัดของสำนักงานปราบปรามยาเสพติด หรือ ดีอีเอ ให้ “อะลุ่มอล่วย” และยึดถือกฎหมายของแต่ละรัฐมากขึ้น ซึ่งคำสั่งฉบับนี้ ต่อมาได้กลายเป็นหลักปฏิบัติ หรือไกด์ไลน์ สำหรับดีอีเอ หรือหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐบาลกลางในการทำคดีเกี่ยวกับกัญชา เรียกว่า “บันทึกความเข้าใจโคล” หรือ Cole Memorandum ซึ่งถูกใช้ต่อมาจนถึงสมัยของโดนัลด์ ทรัมป์ และขณะนี้ กลุ่มสนับสนุนเสรีกัญชากำลังเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน สั่งบังคับใช้บันทึกความเข้าใจฉบับนี้อีกครั้ง
สามารถพูดได้ว่าชาวอเมริกัน “ส่วนใหญ่” สนับสนุนให้เปิดเสรีกัญชา เห็นได้จากผลสำรวจความเห็นประชาชนของพิว (Pew research poll) เมื่อปี 2021 พบว่าชาวอเมริกันถึง 91 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่าควรเปิดเสรีกัญชา โดย 31 เปอร์เซ็นต์เห็นว่าควรเปิดเสรีเฉพาะในเชิงการแพทย์ และอีก 60 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าควรเปิดเสรีกัญชาทั้งการแพทย์และนันทนาการ โดยมีเพียง 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เห็นว่าไม่ควรเปิดเสรีกัญชาในอเมริกา
และผลสำรวจสดๆ ร้อนๆ ของ ซีบีเอส นิวส์/ยูกอฟ โพลล์ เมื่อเดือนเมษายน 2022 พบว่า 66 เปอร์เซ็นต์ของผู้ร่วมแสดงความเห็น เชื่อว่าควรเปิดเสรีกัญชาเพื่อการสันทนาการ ทั้งในระดับรัฐ และระดับประเทศ
แรงหนุนให้มีการปลดล็อคกัญชาดังกล่าวนี้ ทำให้มีกฎหมาย (ที่เชื่อกันว่า) เปิดเสรีกัญชาทั่วประเทศ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาหนึ่งฉบับ
กฎหมายฉบับนี้ ชื่อว่า MORE Act (the Marijuana Opportunity and Reinvestment Expungement Act)
สาระของกฎหมายฉบับนี้ ไม่ได้พูดถึงการเปิดเสรีกัญชาทั่วประเทศโดยตรง แต่ให้ยกเลิกความผิดในคดีอาญาตามกฎหมายของรัฐบาลกลาง สำหรับผู้ปลูก, ผู้ครอบครอง หรือจัดจำหน่ายสินค้ากัญชา และให้ลบประวัติอาชญากรรม (expunge) ของนักโทษคดีเกี่ยวกับกัญชา ที่ไม่ใช่คดีร้ายแรง รวมถึงให้มีการจัดเก็บภาษีกัญชา (5 เปอร์เซ็นต์) เพื่อนำเงินมาช่วยชุมชนที่เคยได้รับผลกระทบจากการปราบปรามกัญชา เช่นตั้งกองทุนฝึกงาน, ให้คำปรึกษากฎหมาย หรือช่วยเหลือเด็กและเยาวชน เป็นต้น
ส่วนการเปิดเสรีกัญชานั้น กฎหมาย MORE Act บอกแค่ว่าให้อยู่ในดุลพินิจของแต่ละรัฐเอง
สาระของ MORE Act ที่ว่ามา ทำให้สื่อมวลชน และผู้สนใจทั่วไปเรียกกฎหมายฉบับนี้ว่า “กฎหมายปลดล็อคกัญชาของอเมริกา” เพราะการยกเลิกคดีอาญาตามกฎหมายของรัฐบาลกลาง ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงต่างๆ รวมถึงการถอดกัญชา ออกจากรายชื่อยาเสพติดประเภทหนึ่งด้วย
เวลานี้ MORE Act ผ่านความเห็นชอบจากสภาล่าง หรือสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งครองเสียงข้างมากโดยพรรคเดโมแครต ไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา รอเข้าสู่การพิจารณาของสภาสูง หรือวุฒิสภา ซึ่งจะเริ่มสมัยประชุมหน้าในช่วงต้นเดือนสิงหาคม
แม้ว่าผู้นำเสียงข้างมากในสภาสูง คือ ส.ว.ชาร์ลส์ ชูเมอร์ ของเดโมแครต จะแสดงความมั่นใจว่ากฎหมายฉบับนี้จะผ่านการโหวตจากสภาสูงก็ตาม แต่บรรดานักวิจารณ์การเมืองส่วนใหญ่ ยังไม่เชื่อว่าเส้นทางการเปิดเสรีกัญชาในอเมริกา จะสะดวกแบบนั้น
ปัญหาใหญ่คือในวุฒิสภา ซึ่งมีวุฒิสมาชิกทั้งหมด 100 คนนั้น เวลานี้เป็นนักการเมืองสังกัดเดโมแครต เพียงครึ่งเดียว แถมบรรดาวุฒิสมาชิกหัวอนุรักษ์จากฝั่งรีพับลิกันหลายคน ได้ออกมาแสดงท่าทีต่อต้านร่างกฎหมายฉบับนี้อย่างขันแข็ง ให้เห็นกันแล้ว
ร่างกฎหมาย MORE Act จะผ่านสภาสูงได้ก็ต่อเมื่อมีเสียง “โหวตเยส” ไม่ต่ำกว่า 60 เสียง แปลว่านอกจากจะต้องได้เสียงของเดโมแครตทั้งหมดแล้ว ยังต้องการเสียงของรีพับลิกันอย่างน้อย 10 เสียงด้วย
จึงพอสรุปได้ในเวลานี้ว่าการเปิดเสรีกัญชาในประเทศอเมริกานั้น ไม่น่าที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน...
…..
ล้อมกรอบ :
:-รัฐที่เปิดเสรีกัญชา (ทั้งเพื่อการนันทนาการ และในเชิงการแพทย์)
จนถึงเดือนเมษายน 2022 มีเพียง 18 รัฐที่อนุญาตให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ ใช้กัญชาได้อย่างถูกกฎหมาย ทั้งเพื่อความบันเทิงส่วนตัว และในเชิงการแพทย์ คือ Alaska, Arizona, California, Colorado, Connecticut, Illinois, Maine, Massachusetts, Michigan, Montana, New Jersey, New Mexico, New York, Nevada, Oregon, Vermont, Virginia และ Washington รวมถึงวอชิงตัน ดีซี และดินแดนในความปกครอง เช่นกวม และหมู่เกาะมาเรียน่าเหนือ ด้วย
:-รัฐที่เปิดเสรีกัญชาในเชิงการแพทย์ (medical marijuana)
ปัจจุบัน มี 37 รัฐที่อนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์ คือ Alaska, Alabama, Arizona, Arkansas, California, Colorado, Connecticut, Delaware, Florida, Hawaii, Illinois, Louisiana, Maine, Maryland, Massachusetts, Michigan, Minnesota, Mississippi, Missouri, Montana, Nevada, New Hampshire, New Jersey, New Mexico, New York, North Dakota, Ohio, Oklahoma, Oregon, Pennsylvania, Rhode Island, South Dakota, Utah, Vermont, Virginia, Washington และ West Virginia รวมถึง ดีซี และดินแดนในความปกครอง เช่น ปัวโตริโก้, กวม, หมู่เกาะมาเรียน่าเหนือ, และเวอร์จินไอแลนด์
โดยรัฐโรดไอแลนด์ อาจจะเป็นรัฐที่เปิดเสรีกัญชาเพื่อนันทนาการเป็นรัฐต่อไป หลังจากมีการเสนอต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา.