เคทีแอลเอ รายงานข่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงคดีโจรกรรมเครื่องกรองไอเสียใต้รถยนต์ หรือแคทตาไลติค (Catalytic converter) ที่กลายเป็นปัญหาใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยอ้างข้อมูลจากเว็บไซต์ซื้อขายรถยนต์ Carfax ว่ามีคดีโจรกรรมแคทตาไลติคฯ เพิ่มขึ้นจาก 1,300 คดีทั่วประเทศในปี 2018 เป็นมากกว่า 52,000 คดีในปี 2021 ถือว่าเพิ่มขึ้นถึง 1,215 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ข่าวบอกว่าการโจรกรรมเครื่องกรองไอเสีย ซึ่งมีโลหะมีค่าหลายชนิดเป็นองค์ประกอบนั้น เพิ่มสูงมากในช่วงวิกฤตโควิด-19 เพราะเกิดปัญหาห่วงโซ่อุปทานรุนแรง โลหะหลายชนิดหายาก เป็นที่ต้องการของตลาดมืด ทำให้คนร้าย ซึ่งมีเพียงแจ็ค และเครื่องตัดโลหะมือถือ (angle grinder) ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการทำงาน สามารถขายแคทตาไลติค ได้ในราคาอันละหลายร้อยดอลลาร์ หรืออาจจะถึงพันดอลลาร์

โดยรถยนต์ที่ถูกคนร้ายลอบตัดแคทตาไลติกมากที่สุดคือรถประเภทไฮบริด ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในแทบทุกรัฐ เพราะราคาน้ำมันและกฎหมายควบคุมมลสภาวะที่เข้มงวดมากขึ้น โดยรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นรัฐที่มีคดีโจรกรรมแคทตาไลติคมากที่สุดในอเมริกา

ข่าวอ้างข้อมูลของ Carfax ถึง 10 อันดับของรถยนต์ที่ถูกลักลอบตัดแคทตาไลติคมากที่สุด ดังนี้

1)Toyota Prius 2001-21
2) Ford F-Series 1985-2021
3) Honda Accord 1989-2020
4) Ford Econoline 1990-2022
5) Chevrolet Silverado 1999-2021
6) Subaru Outback 2007-20
7) Jeep Patriot 2007-17
8) Honda Element 2003-11
9) Subaru Forester 1998-2020
10) Toyota Tacoma 1995-2021

โดยหลังจากถูกคนร้ายลอบตัดแคทตาไลติคแล้ว เจ้าของรถยนต์ส่วนใหญ่ต้องจ่ายเงินระหว่าง 1,000-3,000 ดอลลาร์ในการซ่อมแซมรถยนต์ให้สามารถขับเคลื่อนได้ตามปกติ

ต่อปัญหาที่กำลังคุกคามเจ้าของรถยนต์ในอเมริกาอยู่ในขณะนี้นั้น ข่าวอ้างคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและผู้รักษากฎหมายในการป้องกันไม่ให้คนร้ายลงมือขโมยแคทตาไลติคได้ง่ายเกินไป ดังนี้

-หากไม่สามารถจอดรถในโรงรถ หรือในรั้วบ้านได้ ให้เลือกจอดรถยนต์ในที่สว่าง และมีคนเดินผ่านไปมา

-หากเป็นรถขนาดใหญ่ที่เรียกว่า high-profile vehicles (เช่นรถกระบะ เอสยูวี ฯลฯ) ให้จอดท่ามกลางวงล้อมของรถพื้นต่ำ (low ground-clearance vehicles) ซึ่งอาจจะทำให้คนร้ายลงมือกับรถยนต์เป้าหมายได้ไม่สะดวก

-ติดตั้งตัวล็อคแคทตาไลติค ฯลฯ.