เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2025 บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม ประกาศว่าจะยกเลิกการรองรับระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถยนต์ ทั้งของ Apple CarPlay และ Android Auto ในรถรุ่นใหม่ทั้งหมด

แมรี่ บารรา ซีอีโอของจีเอ็ม บอกว่าบริษัทจะค่อยๆ ยกเลิกระบบยอดนิยมเหล่านี้ออกจากรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ใช้น้ำมันทุกคันในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อเปลี่ยนมาใช้ “อินเตอร์เฟซ” ที่จีเอ็มพัฒนาขึ้นเอง 

โดยระบบของจีเอ็ม ใช้ระบบปฏิบัติการ Google Android Automotive OS ซึ่งซีอีโอของจีเอ็ม มั่นใจว่า “จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น ปลอดภัย และเป็นเอกภาพมากขึ้น”

ข่าวบอกว่าในช่วงที่ผ่านมา จีเอ็ม ได้เริ่มนำระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถยนต์ของตัวเองมาใช้ในรถไฟฟ้าบางรุ่นแล้ว แต่รถยนต์จีเอ็มส่วนใหญ่ คือ 34 รุ่นจากทั้งหมด 40 รุ่น ยังคงให้บริการ CarPlay และ Android Auto อยู่

ข่าวบอกว่าแผนการยกเลิกระบบยอดนิยมอย่าง Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนแสดงความไม่พอใจบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะหลังจากมีรายงานของ AutoBlog (เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ที่เน้นเรื่องรถยนต์และอุตสาหกรรมยานยนต์) ว่าเป้าหมายระยะยาวของจีเอ็ม คือ “การเปลี่ยนรถยนต์ของตัวเองให้กลายเป็น ‘แพลตฟอร์มที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์’ เพื่อสร้างรายได้จากบริการแบบสมัครสมาชิกและบริการในรถยนต์”

“การเปลี่ยนแปลงเป็นเพียงการหาเงินเพิ่มของบริษัท เป็นการตัดสินใจที่โง่มากอีกครั้งของผู้ผลิตรถสัญชาติอเมริกัน ไม่มีใครอยากได้ระบบ GM สำหรับแอปและแผนที่ เรารู้ว่ามันแย่แน่ และพวกเขาจะบวกเพิ่ม 2,000 ดอลลาร์ในทุกคัน” ผู้ที่บอกว่าเป็นเจ้าของรถจีเอ็ม แสดงความเห็น ก่อนจะบอกว่า “เตรียมพบกับบริการสมัครสมาชิกเพื่อสตาร์ทรถของคุณแล้ว”

อย่างไรก็ดี จีเอ็ม ไม่ใช่ผู้ผลิตรถเพียงรายเดียวที่พัฒนาระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถยนต์ของตัวเอง เพราะเมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็เพิ่งเปิดตัวระบบปฏิบัติการของตัวเองในรถรุ่น CLA ขณะที่อาวดี้ ก็มีอินเตอร์เฟซ ของตัวเองเช่นกัน

นอกจากนี้ ข่าวบอกว่าฟอร์ด, โตโยต้า และโวลโว่ ต่างก็กำลังพัฒนาระบบซอฟต์แวร์อิสระของตัวเอง เช่นกัน

ผู้บริหารของจีเอ็ม ยืนยันว่าความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นกับรถยนต์ใหม่เท่านั้น

“เราไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับรถที่มีอยู่ หากรถของคุณรองรับ Apple CarPlay หรือ Android Auto ระบบนั้นจะยังคงใช้งานได้” ผู้บริหารของจีเอ็ม ระบุ.