เอพีรายงานข่าวเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2025 โดยอ้างแถลงของสำนักงานอัยการกรุงปารีส ว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดีโจรกรรมเครื่องราชกกุธภัณฑ์ (crown jewels) ซึ่งถือเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ จนเป็นคดีสะเทือนขวัญที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกได้แล้ว

โดยการจับกุมตัวมีขึ้นเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม ขณะที่หนึ่งในผู้ต้องหากำลังเตรียมตัวเดินทางออกนอกประเทศจากท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกล แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าเจ้าหน้าที่ตรวจพบและยึดอัญมณีล้ำค่า ได้หรือไม่

การแถลงข่าวครั้งนี้ สำนักงานอัยการฯ ได้ตำหนิสื่อมวลชนบางสำนักที่นำเสนอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับจำนวนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนถึงเวลาอันควร โดยบอกว่าอาจทำให้การทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ของหน่วยสืบสวนพิเศษกว่าร้อยคนได้รับผลกระทบ และว่าทางสำนักงานฯ จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อถึงเวลา

เหตุโจรกรรมครั้งประวัติศาสตร์นี้ เกิดขึ้นเมื่อเช้าของวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม โดยกลุ่มคนร้ายใช้รถกระเช้ายกตัวเองขึ้นไปเพื่องัดหน้าต่างชั้นสองของอาคารพิพิธภัณฑ์ ทำลายตู้จัดแสดงอัญมณีล้ำค่า โดยใช้เวลาลงมือเพียงไม่ถึง 8 นาทีก็สามารถขโมยอัญมณีล้ำค่ามูลค่าราว 88 ล้านยูโร หรือราว 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลกได้สำเร็จ 

โดยรวมแล้ว คนร้ายขโมยอัญมณีล้ำค่าไปทั้งสิ้น 8 ชิ้น หนึ่งในนั้นประกอบด้วยมงกุฎประดับไพลิน, สร้อยคอ และต่างหู 1 ข้าง จากรัชสมัยของพระราชินีมารี-อาเมลี และราชินีออร์ตองส์แห่งศตวรรษที่ 19

นอกจากนี้ ยังมีสร้อยคอและต่างหูมรกตของจักรพรรดินีมารี-ลุยส์ พระมเหสีองค์ที่สองของนโปเลียน โบนาปาร์ต, เข็มกลัดบรรจุพระธาตุ (reliquary brooch), มงกุฎเพชร และเข็มกลัดรูปโบว์ประดับลำตัวของจักรพรรดินียูจีนี ด้วย

อย่างไรก็ดี คนร้ายได้ทิ้งมงกุฎมรกตของจักรพรรดินียูจีนี ที่ประดับเพชรกว่า 1,300 เม็ด เอาไว้ที่ด้านนอกพิพิธภัณฑ์ โดยข่าวบอกว่ามงกุฎได้รับความเสียหาย แต่สามารถซ่อมแซมได้

 หลังเหตุการณ์โจรกรรมที่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในคดีขโมยของมีค่าในพิพิธภัณฑ์ที่โด่งดังที่สุดของศตวรรษ สร้างความตะลึงทั้งในด้านความอุกอาจและมูลค่าของความเสียหายแล้ว พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ได้กลับมาเปิดให้บริการในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา.