ผลสำรวจของ NBC News เผยแพร่เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2025 พบว่าสองในสามของผู้ตอบแบบสอบถาม ผิดหวังกับรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการแก้ปัญหาเงินเฟ้อและค่าครองชีพ 

ชาวอเมริกันจำนวนมากบอกว่าไม่พอใจกับวิธีที่รัฐบาลดูแลชนชั้นกลาง โดย 65% ระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้พวกเขาผิดหวัง

ผลสำรวจระบุด้วยว่า ทรัมป์มีคะแนนนิยม 43% ลดลง 4 จุดจากผลสำรวจของสำนักข่าวเดียวกันเมื่อเดือนมีนาคม ขณะที่ 55% ระบุว่าไม่พอใจการทำงานของเขา

ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับผลสำรวจล่าสุดหลายฉบับ เช่น New York Times ระบุว่า ทรัมป์มีคะแนนนิยมเฉลี่ย 42% และไม่พอใจ 55% ถือว่าใกล้เคียงกับผลโพลของ RealClearPolitics ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน ที่คะแนนนิยม 43% และไม่พอใจ 54%

“เป็นผลสำรวจล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งเริ่มไม่พอใจกับการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล” เอ็นบีซี ระบุ และว่าพรรคเดโมแครต กำลังได้อานิสงส์จากความไม่พอใจดังกล่าว เห็นได้จากผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ซึ่งพรรคคว้าชัยชนะในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

ประเด็นสำคัญคือผู้ตอบแบบสำรวจของ NBC News ระบุว่าพวกเขาต้องการให้เดโมแครต เป็นเสียงข้างมากในสภาคองเกรสหลังการเลือกตั้งปี 2027 มากกว่าพรรครีพับลิกันถึง 8 จุด คือ 50% ต่อ 42%

เมื่อพูดถึงการหยุดทำงานของรัฐบาลกลางที่ยังดำเนินอยู่ 49% กล่าวว่าเป็นความผิดของพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส หรือของทรัมป์ ขณะที่ 42% กล่าวว่าเป็นความผิดของพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส

อย่างไรก็ตาม การสำรวจไม่ได้สะท้อนภาพที่สดใสสำหรับเดโมแครตทั้งหมด เพราะมีเพียง 28% ที่มองพรรคในเชิงบวก เทียบกับ 37% ที่มองพรรครีพับลิกันในเชิงบวก โดย “จุดด้อย” ของเดโมแครตคือการแก้ไขปัญหาอิมมิเกรชั่นและอาชญากรรม ส่วน “จุดเด่น” คือประเด็นสาธารณสุข และการจรรโลงประชาธิปไตย

ส่วนประเด็นเศรษฐกิจนั้น แม้ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่จะไม่พอใจนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ในเวลานี้ แต่โดยภาพรวมแล้ว รีพับลิกันยังคงมีคะแนนนำเดโมแครตอยู่ 1 จุดในผลสำรวจ

โดยรวมแล้ว 61% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าประเทศกำลังเดินไปในทิศทางที่ผิด เพิ่มขึ้น 7 จุดจากครั้งล่าสุดที่มีการถามคำถามนี้เมื่อเดือนมีนาคม

ผลสำรวจนี้เก็บข้อมูลจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ลงทะเบียนเลือกตั้งแล้ว 1,000 คน ระหว่างวันที่ 24–28 ตุลาคม ค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ ± 3.1 จุดเปอร์เซ็นต์.