อเมริกาและแคลิฟอร์เนีย
ทรัมป์หลุด! ด่านักข่าวถามเรื่อง “เอปสตีนไฟน์”

แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ทรัมป์หลุด ด่านักข่าว “หุบปาก นังอ้วน” หลังถูกถามถึง “เอปสตีนไฟน์” ซึ่งสภาผู้แทนฯ เพิ่งลงมติให้นำออกเปิดเผยต่อสาธารณชน

เดอะฮิลล์ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงอาการฉุนเฉียวใส่นักข่าวหญิงจากบลูมเบิร์ก นิวส์ ขณะอยู่บนเครื่องบินประจำตำแหน่ง แอร์ฟอร์ซวัน หลังถูกถามถึงอีเมล์ของ เจฟฟรีย์ เอปสตีน อาชญากรทางเพศที่บอกว่าทรัมป์รู้เรื่องการค้าเด็กผู้หญิงของเขา 

“โดยชี้ไปที่เธอ และตะคอกว่า “เงียบ เงียบ นังอ้วน” (Quiet. Quiet, piggy)

ความฉุนเฉียวของทรัมป์ มีขึ้นในช่วงที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณาลงมติกฎหมายที่บังคับให้กระทรวงยุติธรรมเปิดเผยข้อมูลใน “เอปสตีน ไฟน์” ทั้งหมดต่อสาธารณชน

ก่อนหน้านี้ อีเมล์หลายฉบับของ เจฟฟรีย์ เอปสตีน ได้ถูกคณะกรรมาธิการกำกับดูแลและปฏิรูปรัฐบาลของสภาผู้แทนราษฎร นำออกเผยแพร่ ทำให้เป็นที่รับรู้แพร่หลายว่าทรัมป์ “รู้เห็นเป็นใจ” กับธุรกิจค้าเด็กหญิงของเอปสตีน แต่ทำตัวเหมือน “หมาที่ไม่เห่า”

“ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย” ทรัมป์แก้ตัวกับนักข่าวบนแอร์ฟอร์ซวัน “เขาจะประกาศออกมานานแล้ว ถ้ามันเป็นเรื่องจริง” พร้อมทั้งพยายามเบี่ยงประเด็นไปที่ประธานาธิบดี บิล คลินตัน และลอว์เรนซ์ “แลร์รี” ซัมเมอร์ส อดีตประธานมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และอดีต รมว.คลังในสมัยคลินตัน ซึ่งถูกอ้างถึงใน เอปสตีนไฟน์ เช่นกัน

วันเดียวกัน สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมติเกือบเอกฉันท์ 427–1 เสียง ผ่านร่างกฎหมายที่บังคับให้กระทรวงยุติธรรมเปิดเผยแฟ้มเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับคดีค้ามนุษย์ของ เจฟฟรีย์ เอปสตีน อาชญากรทางเพศผู้ทรงอิทธิพลที่ฆ่าตัวตายในคุกเมื่อปี 2019 

การผ่านกฎหมายครั้งนี้ ถือว่าเป็นความคืบหน้าครั้งใหญ่ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และผู้นำรีพับลิกันในสภา พยายามต่อต้านมานานหลายเดือน โดยทรัมป์บอกว่าเป็นเอปสตีนไฟน์ เป็นเรื่องลวงโลกที่มีเจตนาทำลายตนเอง พร้อมสั่งให้พรรคพวก รวมถึงแพม บอนดี้ อัยการสูงสุด, ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร และบรรดา ผู้นำรีพับลิกันในคองเกรส ทำการขัดขวางการเปิดเผยเอกสารอย่างสุดความสามารถ

อย่างไรก็ดี แรงสนับสนุนให้เปิดเผยเอกสารของเอปสตีนจากทั้งสองพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นผู้แทนราษฏรจากสองพรรค ได้ร่วมกันลงนามในคำร้องพิเศษ (discharge petition) ทำให้ประธานสภาฯ ไมค์ จอห์นสัน ไม่สามารถขัดขวางได้ 

โดยก่อนที่สภาล่าง จะลงมติเกือบเอกฉันท์ให้ผ่านกฎหมายว่าด้วยการเปิดเผยเอกสารในเอปสตีนไฟน์ นั้น ทรัมป์ ได้ “เปลี่ยนท่าที” มาสนับสนุนการเปิดเผยเอกสารสำคัญเหล่านี้ ซึ่งนักวิเคราะห์บอกว่าเป็นเพราะทรัมป์ ทนแรงกดดันจากทั้งในและนอกรัฐสภาไม่ได้ รวมถึงการเสียฐานเสียงของตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มรีพับลิกันรุ่นใหม่ ก็เป็นตัวเร่งสำคัญ

“ความเกี่ยวข้องของทรัมป์กับเอปสตีน ทั้งในแง่เพื่อนและผู้ใช้บริการถูกเปิดเผยออกมามาก จนทำให้ทรัมป์คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ดังนั้นจึงหันมาสนับสนุนแทนโดยพยายามปั่นให้กลุ่มผู้สนับสนุนของเขาเพ่งความสนใจไปที่คนอื่น เช่นประธานาธิบดีคลินตัน ที่มีชื่ออยู่ในเอปสตีนไฟน์ เช่นกัน” ข่าวระบุ

ทรัมป์โพสต์โซเชียลมีเดียเมื่อค่ำวันที่ 16 พฤศจิกายน ก่อนการลงมติของสภาล่าง เกี่ยวกับเอปสตีน ไฟน์ว่า ตนได้สนับสนุนให้บรรดารีพับลิกันในสภาคองเกรส โหวจสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้

“เพราะเราไม่มีอะไรต้องปิดบัง และถึงเวลาที่จะเดินหน้าต่อจากกลลวงของเดโมแครตที่ถูกสร้างขึ้นโดยพวกคลั่งซ้าย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของพรรครีพับลิกัน รวมถึงชัยชนะล่าสุดของเราที่เกี่ยวกับ ‘การปิดหน่วยงานรัฐ’ ของเดโมแครต”

ทั้งนี้ หลังจากผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว กฎหมายว่าด้วยการเปิดเผยเอปสตีนไฟน์ จะต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา เป็นอันดับต่อไป แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าวุฒิสภาจะสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้หรือไม่ ส่วนทรัมป์บอกว่าหากผ่านทั้งสองสภา เขายินดีจะลงนามให้เป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันทันที.

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
638
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข