เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2025 สำนักงานสาธารณสุขของลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้แถลงว่าพบผู้ติดเชื้อ “ไข้เดงกี” รายแรกของฤดูกาล 2025 แล้ว เป็นผู้ป่วยในซานเกเบรียล แวลเล่ย์ ที่เริ่มมีอาการตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน โดยที่ไม่ได้เดินทางออกไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคอันตรายชนิดนี้ (อเมริกากลางและใต้, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, แคริบเบี้ยน, แอฟริกา และบางเมืองของฟลอริด้าและเท็กซัส)

สำนักงานฯ ย้ำว่า ความเสี่ยงโดยรวมของการแพร่เชื้อเดงกีในเคาน์ตี้ ยังคงต่ำ และว่ากำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานควบคุมยุง หรือ Mosquito and Vector Control ของซานเกเบรียล แวลเล่ย์ ดีสทริค เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังยุง ลดจำนวนยุง และให้ข้อมูลแก่ประชาชน

พร้อมกันนี้ สำนักงานสาธารณสุขฯ ได้แนะนำประชาชนให้ป้องกันตัวเองจากยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะของไวรัสเดงกี เช่นใช้สเปรย์กันยุงที่จดทะเบียนกับ EPA และมีส่วนผสมของ DEET, picaridin, IR3535, 2-undecanone, หรือน้ำมันเลมอน-ยูคาลิปตัส ในระหว่างอยู่นอกบ้าน

สวมใส่ เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว เมื่ออยู่กลางแจ้ง, เทหรือคลุมภาชนะที่กักน้ำ เช่น จานรองกระถาง ถัง หรือถังเก็บน้ำฝน, ทำความสะอาดและดูแลสระว่ายน้ำ และระบายน้ำจากผ้าคลุมสระ, ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนมุ้งลวดหน้าต่างและประตูหากมีรูหรือฉีกขาด ฯลฯ

ปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยไข้เดงกีในแอลเอ เคาน์ตี้ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 กันยายน และยืนยันผู้ติดเชื้อรวม 14 ราย

อาการ มักปรากฏ ภายใน 5–7 วัน หลังถูกยุงกัด เช่นไข้สูง, ปวดศีรษะรุนแรง, ปวดตา, ปวดข้อและกล้ามเนื้อ, ผื่น, เลือดออกเล็กน้อย หากมีอาการรุนแรงอาจ ทำให้ ช็อก เลือดออกมาก หรืออวัยวะล้มเหลว และต้องได้รับ การรักษาโดยแพทย์ทันที

ในอดีต ไข้เดงกี เป็นที่รู้จักกันในชื่อไข้เลือดออก แต่ปัจจุบันมีการแยกภาวะของไข้ทั้งสองชนิดออกจากกัน โดยเดงกีจะกลายเป็นไข้เลือดออก เมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง มีการรั่วของน้ำเหลืองออกจากหลอดเลือด ทำให้ความเข้มข้นของเลือดเพิ่มขึ้น และมีเลือดออกง่าย คนไข้อาจช็อก และอาจมีอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที.