การชุมนุมภายใต้ชื่อ “No Kings” ครั้งล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2025 ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ มีผู้เข้าร่วมหลายล้านคนในหลายเมืองใหญ่ เช่น นิวยอร์ก ชิคาโก วอชิงตัน ดีซี ไมอามี และลอส แอนเจลิส
ในนิวยอร์กซิตี้ สำนักงานตำรวจเมืองนิวยอร์ก (NYPD) รายงานว่ามีผู้เข้าร่วมการชุมนุมอย่างสันติรวมกว่า 100,000 คนกระจายอยู่ในทั้ง 5 เขตของเมือง โดยไม่มีรายงานการจับกุมที่เกี่ยวข้องกับการประท้วง ส่วนในชิคาโก มีผู้เข้าร่วมประมาณ 75,000 คน เดินขบวนร่วมกับตำรวจอย่างสันติ
ส่วนในลอส แอนเจลิส มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมหลายพันคน โดยการประท้วงที่กินเวลาตลอดวัน เป็นไปอย่างสันติ
No Kings ซึ่งเป็นกิจกรรมต่อต้านประธานาธิบดีทรัมป์และนโยบายของเขา จัดโดยกลุ่มเคลื่อนไหวชื่อ 50501 ที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนและการชุมนุมทั่วประเทศ โดยไม่ใช้ความรุนแรง เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์, ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์, ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม, ครั้งที่ 4 วันที่ 5 เมษายน,
ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ทรัมป์ใช่งบประมาณประเทศ 45 ล้านดอลลาร์ เพื่อจัดพิธีสวนสนามฉลองวันเกิดตัวเองในกรุงวอชิงตัน ดีซี โดยอ้างว่าเป็นกิจกรรมฉลองโอกาสรอบ 250 ปีของกองทัพสหรัฐฯ จึงเกิดการต่อต้านของประชาชนในกว่า 2,000 เมืองทั่วประเทศ และมีผู้เข้าร่วมประมาณ 5 ล้านคน ถือเป็นการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
ส่วนการชุมนุม No Kings ครั้งล่าสุดนี้ มีขึ้นกว่า 2,600 เมืองทั่วประเทศ มีผู้เข้าร่วมประมาณ 7 ล้านคน เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาลทรัมป์
“เรามาที่นี่เพื่อปกป้องประชาธิปไตยของเราจากรัฐบาลนี้ จากโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ที่อยากเป็นกษัตริย์” ฮันเตอร์ ดูนน์ ตัวแทนขององค์กร 50501 SoCal กล่าว
นอกจากการชุมนุมในอเมริกาแล้ว ข่าวบอกว่าการชุมนุม โนคิงส์ ยังมีขึ้นในหลายประเทศ เช่นกลุ่มยุโรปและแคนาดา ซึ่งผู้ชุมนุมแสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเผด็จการของทรัมป์ และใช้ป้ายและสโลแกนเดียวกับในสหรัฐฯ
โดยการชุมนุม No Kings ที่ประกาศเจตนาชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการ “รวมอำนาจ” ของประธานาธิบดีทรัมป์ก็คาม แต่รัฐบาลของพรรครีพับลิกันและผู้สนับสนุนทรัมป์ ได้พยายามเบี่ยงเบนประเด็น โดยเรียกการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ว่าเป็นการชุมนุมของคนที่ “เกลียดอเมริกา”
ขณะที่ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร จากพรรครีพับลิกัน ถึงขนาดออกมากล่าวหาชาวอเมริกันที่ออกมาประท้วงพฤติกรรมของทรัมป์ว่า เป็น “กลุ่มสนับสนุนฮามาสและแอนตี้ฟา (Antifa) หรือกลุ่มซ้ายจัด“ ทั้งนี้เพื่อลดทอนความชอบธรรมของการชุมนุมประท้วงโดยสันติ และบิดเบือนเจตนารมณ์ของผู้เข้าร่วม ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการแสดงออกถึงความกังวลเกี่ยวกับการกระทำของรัฐบาล ที่มองว่าเป็นการกระทบต่อหลักการประชาธิปไตย.