เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2025 เจ้าชายแอนดรูว์ ได้ประกาศว่าจะสละตำแหน่ง ดยุคแห่งยอร์ก (Duke of York) ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางสูงในราชวงศ์อังกฤษ รวมถึงจะสละเครื่องราชอิสริยาภรณ์อื่นๆ ทั้งหมด 

ท่าทีของ “พระอนุชา” ของพระมหากษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ มีขึ้นหลังจากข่าวความสัมพันธ์ของเขากับเจฟฟรีย์ แอปตีน อาชญากรทางเพศชาวอเมริกัน ได้กลับมาเป็น “ข่าวใหญ่” ของอังกฤษอีกครั้ง หลังจากสื่อมวลชนทุกสำนักในสหราชอาณาจักร พากันเผยแพร่สาระบางส่วนจากเอกสารที่เรียกว่า “บันทึกความทรงจำหลังความตาย” หรือ posthumous memoir ของ เวอร์จิเนีย โรเบิร์ทส์ จิฟฟี หนึ่งในเหยื่อค้ามนุษย์ของ เจฟฟรีย์ แอปตีน (เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2025 จากการฆ่าตัวตาย ขณะอายุ 41 ปี) ซึ่งเธอบอกว่าถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับเจ้าชายแอนดรูว์ ตอนเธอมีอายุ 17 ปี

โดยแถลงการณ์ของเจ้าชายแอนดรูว์ วัย 65 ปี ที่เผยแพร่โดยพระราชวังบักกิงแฮม ระบุว่าพระองค์และราชวงศ์ได้ตัดสินใจว่า “ข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า ได้เบี่ยงเบนความสนใจจากงานของพระองค์และราชวงศ์” 

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้าชายแอนดรูว์  อดีตรัชทายาทอันดับสองของราชวงศ์อังกฤษ ได้ปฏิเสธข่าวฉาวเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ผิดกฎหมายของพระองค์ตลอดมา

ทั้งนี้ ก่อนจะเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในเดือนเมษายน เวอร์จิเนีย โรเบิร์ทส์ จิฟฟี ใช้เวลาถึงสี่ปีในการเล่าเหตุการณ์เพื่อเรียบเรียงเป็นบันทึกความทรงจำกับ เอมี วอลเลส นักข่าว-นักเขียนอเมริกัน โดยเธอระบุรายละเอียดเหตุการณ์ที่เธอยื่นฟ้องเจ้าชายแอนดรูว์ในปี 2021 ว่ามีเพศสัมพันธ์กับเธอขณะอายุ 17 ปี

โดยบันทึกความทรงจำดังกล่าว กำลังจะกลายเป็นหนังสือชื่อ Nobody's Girl: A Memoir of Surviving Abuse and Fighting for Justice ของสำนักพิมพ์อัลเฟรด เอ น็อพฟ์ วางแผงในวันที่ 21 ตุลาคมที่จะถึงนี้

นอกจากสละตำแหน่ง ดยุคแห่งยอร์ก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงพระราชทานให้ “โอรสองค์ที่สอง” ของพระองค์เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 1986 แล้ว เจ้าชายแอนดรูว์ยังสละเครื่องราชอิสริยาภรณ์ระดับสูงสุดของประเทศทั้งหมด คือ Knight Grand Cross of the Royal Victorian Order และ Royal Knight Companion of the Most Noble Order of the Garter ด้วย

แม้จะประกาศสละฐานันดรศักดิ์แล้ว แต่ข่าวบอกว่าเขายังมีสิทธิ์เป็น “เจ้าชาย” ต่อไป เพราะเป็นตำแหน่งตามสิทธิ์ที่มีมาตั้งแต่กำเนิด.