ในอดีตที่ผ่านมา ชาวอเมริกันสามารถรับเงินประกันสังคมแบบจำนวนหากเกษียณอายุทำงานตอนอายุ 65 ปี โดยยอดเงินที่จะได้รับในแต่ละเดือนนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่นรายได้ที่ผ่านมา ประวัติการทำงาน ปีที่เกิด และอายุขณะขอรับเงิน (เกษียณ)

แต่ "วัยเกษียณ" ของชาวอเมริกันถูกปรับให้สูงขึ้นในปี 1983 หลังจากสภาคองเกรส เห็นชอบกฎหมายขยายอายุการเกษียณให้สอดคล้องกับช่วงอายุขัย หรือ lifespan ของประชาชนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ  ทำให้อายุเกษียณที่ประชาชนจะได้รับเงินประกันสังคมเต็มจำนวนถูกขยายออกไปเรื่อยๆ ครั้งละ 2 เดือน

โดยในปี 2025 นี้ สำนักงานประกันสังคมฯ บอกว่าผู้ที่เกิดในปี 1958 จะได้รับเงินประกันสังคมเต็มจำนวนหากเกษียณอายุการทำงานตอนอายุ 66 ปีและ 8 เดือน แต่หากเกิดหลังจากนั้น อายุจะขยับเพิ่มเป็น 66 ปีกับ 10 เดือน

ผู้รับเงินประกันสังคมที่เกิดวันที่ 2 พฤษภาคม 1958 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 1959 จะสามารถเกษียณและรับเงินประกันเต็มจำนวนได้ในปี 2025 แต่สำหรับผู้ที่เกิดในปี 1960 หรือหลังจากนั้น การเกษียณอายุเพื่อรับเงินประกันสังคมเต็มจำนวน จะต้อง 67 ปี

อย่างไรก็ดี สำหรับคนที่ต้องการเกษียณอายุก่อนกำหนด สามารถทำได้ตอนอายุ 62 ปี แต่ยอดเงินประกันสังคมที่ได้รับจะลดน้อยลง (ตามตาราง) ขณะเดียวกัน ผู้ที่ทำงานจนถึงอายุ 70 ปีก็จะได้เงินประกันสังคมสูงกว่าผู้ที่เกษียณอายุตามกำหนดอายุด้วย

ปีเกิด 1943-1954 รับเงินเต็มอายุ 66 ปี แต่หากเกษียณฯ 62 ปี ยอดเงินเหลือ $750 (จาก $1,000)
ปีเกิด 1955 รับเงินเต็มอายุ 66 ปี 2 เดือน หากเกษียณฯ อายุ 62 ปี เหลือ $741 (จาก $1,000)
ปีเกิด 1956 รับเงินเต็มอายุ  66 ปี 4 เดือน หากเกษียณฯ อายุ 62 ปี เหลือ $733 (จาก $1,000)
ปีเกิด 1957 รับเงินเต็มอายุ  66 ปี 6 เดือน  หากเกษียณฯ อายุ 62 ปี เหลือ $725 (จาก $1,000)
ปีเกิด 1958 รับเงินเต็มอายุ  66 ปี 8 เดือน หากเกษียณฯ อายุ 62 ปี เหลือ $716 (จาก $1,000)
ปีเกิด 1959 รับเงินเต็มอายุ  66 ปี 10 เดือน หากเกษียณฯ อายุ 62 ปี เหลือ $708 (จาก $1,000)
ปีเกิด 1960 ขึ้นไป รับเงินเต็มอายุ  67 ปี หากเกษียณฯ อายุ 62 ปี เหลือ $700 (จาก $1,000)
(Credit: SSA)

นอกเหนือจากการขยายอายุของผู้ต้องการรับเงินประกันสังคมเต็มจำนวนออกไปสองเดือนแล้ว ปี 2025 ยังมีความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ของระบบเงินประกันสังคมอีก เช่นมีการปรับอัตราค่าครองชีพ หรือ cost-of-living adjustment ลดลงจาก 3.4 เปอร์เซ็นต์ เหลือแค่ 2.5 เปอร์เซ็นต์, ปรับเพดานรายได้ที่ต้องเสียภาษี (maximum taxable earnings) สูงขึ้นจาก 168,000 ดอลลาร์ เป็น 176,100 ดอลลาร์ และปรับการให้บริการที่สำนักงานประกันสังคมกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ จากระบบวอล์คอิน เป็นการนัดล่วงหน้าเท่านั้น.