DHL เลิกส่งพัสดุราคากว่า 800 เข้าอเมริกาแล้ว
แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ข้อบังคับภาษีใหม่ของทรัมป์ ส่งผลให้ “ดีเอชแอล” บริษัทชิปปิ้งยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศเลิกส่งพัสดุมูลค่าเกิน 800 ดอลลาร์ให้ลูกค้าในอเมริกาแล้ว
เมื่อวันที่ 21 เมษายน DHL Express ซึ่งเป็นบริษัทชิปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเครือข่ายให้บริการมากกว่า 220 ประเทศ ได้ประกาศระงับบริการส่งพัสดุจากธุรกิจถึงลูกค้า ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 800 ดอลลาร์ขึ้นไป เข้ามายังสหรัฐฯ ไม่ว่าต้นทางจะมาจากประเทศไหนก็ตาม โดยเร่ิมมีผลทันที
DHL ระบุบนเว็บไซต์ว่า สาเหตุที่ต้องยุติบริการดังกล่าว มาจากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศใช้ข้อบังคับทางศุลกากรใหม่ โดยให้สินค้าที่มีมูลค่าเกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต้องผ่านตรวจสอบทางศุลกากร จากเดิมที่ตรวจเฉพาะสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 2,500 ดอลลาร์ขึ้นไปเท่านั้น โดยข้อบังคับใหม่ดังกล่าวมีผลตั้งแต่ 5 เมษายนที่ผ่านมา
DHL บอกว่าบริการส่งพัสดุระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ แม้จะไม่ถูกระงับ แต่จะมีความล่าช้ามากขึ้น เพราะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบที่อาจจะต้องใช้เวลานาน ส่วนพัสดุที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งระหว่างธุรกิจถึงลูกค้า หรือธุรกิจกับธุรกิจ ก็ตาม
ก่อนหน้านี้ บริษัทไปรษณีย์ฮ่องกง (Hongkong Post) ได้ประกาศระงับบริการรับและส่งพัสดุทางไปรษณีย์จากสหรัฐฯ ไปก่อนแล้ว โดยจะมีผลตั้งแต่ 27 เมษายนนี้ เป็นการตอบโต้การใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ข่มเหงประเทศอื่นอย่างไร้เหตุผล
ทั้งนี้ ฮ่องกงได้รับผลกระทบจากคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งสั่งให้ยุติการยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับพัสดุขนาดเล็ก มูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์ ซึ่งส่งออกมาจากจีน ส่งผลให้พัสดุจากจีนและฮ่องกงจะถูกเก็บภาษีในอัตรา 90 เปอร์เซ็นต์ หรือ 75 ดอลลาร์ต่อชิ้น เริ่มตั้งแต่ 2 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ก่อนจะปรับเพิ่มเป็น 150 ดอลลาร์ในวันที่ 1 มิถุนายน.
นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส