เอบีซี รายงานเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2025 โดยอ้างคำกล่าวของ ยีน เซโรกา ฝ่ายบริหารของท่าเรือลอส แอนเจลิส ว่า ปริมาณตู้สินค้าขาเข้าที่ท่าเรือหลักของฝั่งตะวันตก ลดลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์

“ผลกระทบจากมาตรการภาษีเกิดขึ้นแทบจะในทันทีในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม” ยีน เซโรก้า กล่าว และว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ตั้งแต่จำนวนแรงงานในท่าเรือ คนขับรถบรรทุก ไปจนถึงพนักงานคลังสินค้า

ก่อนหน้านี้ บรรดาผู้นำเข้า ได้เพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้า เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีใหม่ ทำให้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ท่าเรือลอส แอนเจลิส มียอดขนถ่ายสินค้าสูงถึง 843,000 ทีอียู (หน่วยนับตู้คอนเทนเนอร์ยาว 20 ฟุต) เพิ่มขึ้น 9.4 เปอร์เซ็นต์

สำหรับสินค้าขาออกในเดือนเมษายนนั้น ผู้บริหารของท่าเรือลอส แอนเจลิส บอกว่าลดลงต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ห้า เนื่องจากประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ ตอบโต้มาตรการของทรัมป์ด้วยการตั้งกำแพงภาษีเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตรและสินค้าภาคการผลิตของสหรัฐฯ

แม้ว่าการบรรลุข้อตกลงชั่วคราวระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะชะลอการจัดเก็บภาษีระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน อาจช่วยกระตุ้นการนำเข้าสินค้ากลับมาในเดือนมิถุนายน และกรกฎาคม แต่ ยีน เซโรกาเตือนว่า สถานการณ์ยังไม่แน่นอน และนโยบายการค้าของทรัมป์มีความผันผวนสูงมาก

เซโรกา บอกด้วยว่า จนถึงกลางเดือนพฤษภาคม มีการยกเลิกการเดินเรือเข้าเทียบท่าเรือลอส แอนเจลิสถึง 17 เที่ยวจากทั้งหมด 80 เที่ยว และคาดว่าจะมีการยกเลิกเพิ่มอีก 10 เที่ยวในเดือนหน้า

นอกจากท่าเรือแอลเอแล้ว ข่าวบอกว่า ท่าเรือลองบีช ก็กำลังได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยผู้บริหารของท่าเรือแห่งนี้คาดว่าปริมาณตู้สินค้าขาเข้าจะลดลงมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบกับตัวเลขของเดือนเมษายน ส่วนท่าเรือโอ๊คแลนด์ ซึ่งอยู่ทางเหนือของแอลเอ นั้น ตัวเลขตู้สินค้าขาเข้าเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่เดือนเมษายน เพราะมีการขนถ่ายสินค้า 185,499 ทีอียู หรือลดลง 14.7 เปอร์เซ็นต์ จากเดือนมีนาคม.