เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2025 ศาลการค้าระหว่างประเทศ (US Court of International Trade) ในแมนฮัทตัน รัฐนิวยอร์ก มีคำสั่งให้ระงับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยให้เหตุผลว่าการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรกับประเทศคู่ค้าที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ แบบตามใจชอบของทรัมป์ ถือเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต
โดยการตัดสินคดีนี้ มีขึ้นหลังจาก 12 รัฐ รวมถึงนิวยอร์กและแคลิฟอร์เนีย ยื่นฟ้องต่อศาล ระบุว่าทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตของประธานาธิบดีในการกำหนดภาษีศุลกากรตามอำเภอใจ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ
คำตัดสินของศาลฯ เห็นชอบตามคำฟ้อง โดยระบุว่ารัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ให้อำนาจเฉพาะแก่รัฐสภาในการกำหนดกฎเกณฑ์ด้านการค้ากับประเทศอื่นๆ เป็นอำนาจเฉพาะที่ไม่สามารถถูกแทนที่โดยอำนาจของประธานาธิบดี ที่อ้างว่าเพื่อปกป้องเศรษฐกิจของประเทศ
“ศาลไม่ได้ตัดสินว่ามาตรการภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดี เป็นเรื่องฉลาดหรือไม่ แต่ตัดสินว่าการใช้อำนาจแบบนั้น ไม่สามารถทำได้ ไม่ใช่เพราะมันไม่ฉลาดหรือไม่ได้ผล แต่เพราะกฎหมายของรัฐบาลกลางไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้น" คณะผู้พิพากษา 3 คนระบุในคำตัดสิน
รายงานระบุว่า หลังจากมีคำตัดสินดังกล่าว ฝ่ายบริหารของทรัมป์ก็ยื่นได้อุทธรณ์ในไม่กี่นาทีต่อมา
วันเดียวกัน ข่าวบอกว่าผลการตัดสินของศาลการค้าฯ ดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียคึกคักขึ้นทันที เช่นดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เปิดที่ระดับ 38,046.97 จุด เพิ่มขึ้น 324.57 จุด หรือ +0.86%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,340.40 จุด เพิ่มขึ้น 0.47 จุด หรือ -0.01% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,240.71 จุด ลดลง 17.6 จุด หรือ -0.07%, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 0.78% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียบวก 0.12% ฯลฯ