ป๋าเทพ โพธิ์งาม ยอมรับเหนื่อยแต่หยุดไม่ได้ ทำงานหนักใช้หนี้ - เลี้ยงเมีย 3 ลูก 5 ลั่นอย่าซื้อขนมเปี๊ยะเพราะสงสาร ยังไม่คิดทิ้งวงการ ขอทำเท่าที่มีโอกาส

อย่างที่ทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้ เทพ โพธิ์งาม  นักแสดงตลกรุ่นใหญ่ ประสบปัญหาชีวิต เป็นหนี้สินหลังทำธุรกิจแล้วเจ๊งไม่เป็นท่ามาหลายครั้ง จนล้มละลาย แต่ตอนนี้ก็ได้เปิดธุรกิจใหม่อย่างการเปิดร้านขายขนมเปี๊ยะ และถึงแม้จะมีปัญหาเข้ามาแต่เจ้าตัวก็ไม่เคยท้อ

ล่าสุด ป๋าเทพ ก็ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ ยิ่งศักดิ์ ยิ่งแซ่บ ว่า ทุกวันนี้ตนก็ยังมีหนี้อยู่ แต่ยังดีมีเงินมาหมุนทุกวันจากการทำขนมขาย เพราะเราก็อายที่จะต้องไปหยิบยืมใคร ก็มีบ้างที่ไปยืม น้อย โพธิ์งาม น้องสาว ตอนนี้อะไรตัดได้เราก็ตัดไป บ้านก็ขายไปแล้วมาเช่าบ้านอยู่แทนเดือนละ 2 หมื่นบาท อยู่กันทั้งบ้าน ลูก ๆ ก็คอยช่วยเหลือกัน ลูกสาวตอนนี้ให้ไปเรียนบริหาร ว่าง ๆ ก็มาช่วยขายขนม เราอยากให้ลูกได้ประสบการณ์ ให้กล้าทำธุรกิจ ตนไม่อยากให้ลูกอยู่ในวงการ

เมื่อถูกถามว่าคิดว่า ตัวเองทำให้ครอบครัวลำบากไหม ป๋าเทพ เผยว่า ตนเลี้ยงลูกมา 5 คน เลี้ยง 3 ครอบครัว มีเมีย 3 คน ถึงจะมีแฟนใหม่ แต่เราก็เลี้ยงครอบครัวมาได้ตลอด ทุกวันนี้ขาดเหลืออะไรเราก็ช่วยกัน ครอบครัวเราก็ช่วยกันใช้หนี้ ตนอายุเท่านี้แล้ว ยอมรับว่าตนเหนื่อยแต่ก็หยุดไม่ได้ อีกอย่างตนไม่อยากให้ลูกอยู่วงการบันเทิงเหมือนตน อยากให้ไปเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่เล่นตลก แล้วคนในครอบครัวช่วยกันได้ ครอบครัวก็ไม่เคยห้ามหรือให้หยุดทำธุรกิจเพราะเขาก็ตามใจเรา ตนก็ทำด้วยความสนุก ส่วนสัตว์เลี้ยงอย่าง วัว ควาย ที่เลี้ยงกว่า 30 ตัว ก็ยังไม่คิดจะขาย

ส่วนเรื่องงานในวงการบันเทิงนั้น ป๋าเทพ เผยว่า วงการบันเทิงเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ตนยังไม่ค่อยใส่ใจ เอาเป็นว่ามีโอกาสก็มา ไม่มีโอกาสก็ขายของไป อยากให้มาก็เรียกแล้วกัน ส่วนละครนั้น ตนมีปฏิเสธละครไปเพราะเราอิ่มตัว เราผ่านมาเยอะ บางคนก็หาว่าหยิ่งจองหอง คุณไม่รู้รายละเอียดชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางทีเราวิ่งจากจันทบุรีกลับมาบ้านเกือบสว่าง ไปขายขนม เราไม่ไหว หรือรายการที่เราจะไปเล่น เหมาะสมกับตัวเราไหม เหมาะสมกับอายุเราไหม ทั้งที่เราก็อยากได้เงินมาก แต่มันก็ต้องดูเหมือนกัน เพราะถึงจุดที่วัยเราแก่แล้ว เราก็ไม่อยากไปเป็นคนแก่ปัญญาอ่อนมันหมดอายุแล้ว

กับประเด็นที่ก่อนหน้านี้ ท๊อฟฟี่ นิชาภา ลูกสาวเคยออกมาโพสต์ตัดพ้อหลังมีคนออกมาบอกว่าที่ซื้อ ขนมเปี๊ยะไปเพราะสงสารแถมไม่อร่อยนั้น ป๋าเทพก็เผยว่า ถ้าคุณกินแล้วไม่อร่อยคุณก็ไม่ต้องซื้อ อย่ามองเป็นสิ่งที่น่าสงสารเลย ส่วนที่แพงนั้นก็เป็นเพราะวัตถุดิบที่เราเลือกมาทำมันเป็นของดี ตนก็อยากให้นึกถึงต้นทุนที่เราเสียไป ตอนนี้ก็ 50 50 บางวันก็ขายดี บางวันก็ไม่ดี

ทั้งนี้ ป๋าเทพ ยังได้ทิ้งท้ายไว้อีกว่า ความจริงแล้วตนก็ไม่ใช่คนสู้ชีวิต มันเป็นไปตามพรหมลิขิตหรือตามบุญตามกรรมที่เรามี ถ้าวันไหนเราเหนื่อย เราลำบาก ก็แสดงว่าวันนั้นเรายังแบกกรรมอยู่ แต่ถ้าวันไหนเราสบายแสดงว่าเราลืมมีบุญแล้ว เราคิดแค่นี้ ขอถือตรงนี้เป็นสำคัญที่สุด ตนเชื่อเรื่องบุญเรื่องบาปที่สุด เราทำอะไรก็ต้องเจอสิ่งนั้น เราหนีไม่ได้ เราถือปฏิบัติแบบนี้มาตลอด ไม่ทำให้ใครเจ็บปวด แต่ตนเป็นคนที่ไม่ค่อยอยากเอาเรื่องอะไรเก็บมาคิด เหมือนอย่างตอนเล่นตลกตนก็มักจะมีอะไรใหม่ ๆ มาเสมอ




(เครดิต กระปุกดอทคอม)