สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ แถลงเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทั้งระดับบริหาร และระดับปฏิบัติการ ได้ผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วเกือบ 20,000 คน หรือมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์แล้ว
ทั้งนี้ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ บอกว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารเข้ารับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพนักงานระดับต่างๆ เข้ารับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงเชื่อว่าองค์กรการบินขนาดใหญ่ของอเมริกาแห่งนี้ จะสามารถฉีดวัคซีนให้พนักงานทุกระดับได้ 100 เปอร์เซ็นต์ก่อนถึงวันที่ 27 กันยายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่พนักงานทุกระดับจะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน หากยังประสงค์จะทำงานกับทางองค์กรอยู่
ทั้งนี้ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เป็นสายการบินแห่งแรกของสหรัฐฯ ที่มีคำสั่งบังคับให้พนักงานเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ภายในวันที่ 27 กันยายน โดยจะยกเว้นให้เฉพาะผู้มีปัญหาสุขภาพเท่านั้น ส่วนพนักงานที่ไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้เพราะขัดกับความเชื่อส่วนตัว ทางองค์กรจะให้พักงานเป็นการชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าจ้าง จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะดีขึ้น
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้แถลงถึงแผนควบคุมโควิด-19 ล่าสุดว่า จะบังคับให้องค์กรที่มีพนักงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไปต้องบังคับพนักงานฉีดวัคซีน หรือต้องแสดงหลักฐานการตรวจโควิด-19 ที่เป็นลบก่อนเข้าทำงานทุกสัปดาห์ โดยคำสั่งผู้บริหารสูงสุด หรือ executive order ดังกล่าวยังมีผลกับสถานพยาบาล หรือศูนย์การแพทย์ต่างๆ ที่รับสวัสดิการของรัฐบาล เช่น เมดิแคร์ และเมดิเคด หรือองค์กรธุรกิจต่างๆ ที่มีสัญญาธุรกิจกับรัฐบาลด้วย ซึ่งคำสั่งที่ถือว่าเป็น “ยาแรง” ที่สุดของรัฐบาลชุดนี้ มีผลบังคับให้ประชาชนมากไม่ต่ำกว่า 100 ล้านคนต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน.