เว็บไซต์ของเมก้ามิลเลี่ยน ระบุเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2025 ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์หลายๆ อย่างเกี่ยวกับล็อตโต้ประเภท เมก้ามิลเลี่ยน (Mega Millions) ตั้งแต่งวดวันอังคารที่ 8 เมษายน นี้เป็นต้นไป
อย่างแรกคือราคาของเมก้ามิลเลี่ยน ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ใบละ 2 ดอลลาร์ จะถูกปรับเพิ่มเป็น 5 ดอลลาร์
สำนักงานล็อตเตอรี่ฯ บอกว่าการปรับราคา ทำให้มูลค่าของรางวัลทุกประเภท ตั้งแต่ต่ำสุดจนถึงรางวัลแจ็คพ็อต เพิ่มสูงขึ้น เช่นรางวัลแจ็คพ็อต ซึ่งเคยตั้งต้นที่ 20 ล้านดอลลาร์ จะเปลี่ยนเป็น 50 ล้านดอลลาร์
“ส่งผลให้ยอดเงินแจ็กพ็อตจะเพิ่มเร็วขึ้น และกลายเป็นเงินก้อนโตบ่อยครั้งขึ้น” เว็บไซต์ฯ ระบุ
โดยผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การตั้งต้นรางวัลแจ็กพ็อตของเมก้า มิลเลี่ยน ที่ 50 ล้านดอลลาร์ จะทำให้มูลค่าเฉลี่ยของแจ็กพ็อตเพิ่มขึ้นจาก 450 ล้านดอลาร์ เป็น 800 ล้านดอลลาร์
ส่วนรางวัลต่ำสุด (ถูกเลขเมก้าตัวเดียว) ที่เคยได้รับแค่ 2 ดอลลาร์จะถูกปรับเป็น 5 ดอลลาร์ หรือถูกเลข 1 ตัวบวกเมก้า จะถูกปรับจาก 4 ดอลลาร์ เป็น 7 ดอลลาร์
แต่ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือมีการเพิ่มระบบที่เรียกว่า buil-in multiplier หรือตัวคูณอัตโนมัต ที่ระบบจะสุ่มตัวคูณ เริ่มจาก 2, 3, 4, 5 และ 10 ให้กับล็อตโต้ทุกใบ เพื่อคูณกับเงินรางวัล (ต่ำกว่าแจ็กพ็อต) เช่นหากถูกรางวัล 5 ดอลลาร์ และได้เลขคูณ 5 ก็จะได้รับเงิน 25 ดอลลาร์ หรือถูกรางวัล 1 ล้านดอลลาร์ และได้เลขคูณ 10 เงินรางวัลก็จะทวีเป็น 10 ล้านดอลลาร์ทันที
ความเปลี่ยนแปลงประการต่อมาคือการเพิ่มโอกาส (odds) ถูกรางวัลแจ็กพ็อตให้สูงขึ้น (จากเดิม 1 ใน 302,575,350 เป็น 1 ใน 290,472,336) โดยการลดเลขเมก้า ที่ผู้ซื้อต้องเลือก จาก 25 ตัว เหลือแค่ 24 ตัว ซึ่งนอกจากจะทำให้โอกาสถูกรางวัลแจ็กพ็อตสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้โอกาสถูกรางวัลใดรางวัลหนึ่งสูงขึ้นจาก 1 ใน 24 เป็น 1 ใน 23 ด้วย
ล็อตโต้ เมก้ามิลเลี่ยน ซึ่งเป็นของรัฐอิลลินอยส์ กำเนิดขึ้นในเดือนกันยายน 1996 มีจำหน่ายในหกรัฐ คือจอร์เจีย อิลลินอยส์ แมรีแลนด์ มิชิแกน แมสซาชูเส็ทท์ และเวอร์จิเนีย ก่อนจะได้รับความนิยมอย่างสูง จนได้ชื่อว่าเป็น “บิ๊กเกม” และมีจำหน่ายใน 45 รัฐ (รวมถึงดีซี และเวอร์จินไอแลนด์) มีการจับเลขรางวัลสัปดาห์ละสองครั้ง คือวันอังคารและวันศุกร์.