พยาบาลประจำห้องคลอด 6 คนของโรงพยาบาลลูอิส เคาน์ตี เจนเนอรัล ฮอสปิตัล ในย่านอัพเสตทของนิวยอร์ก ประกาศลาออกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากสำนักงานสาธารณสุขของรัฐนิวยอร์ก ออกคำสั่งบังคับให้เจ้าหน้าที่การแพทย์ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ภายในวันที่ 27 กันยายน ที่จะถึงนี้
เว็บไซต์ข่าวของเอ็นบีซี รายงานเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2021 ว่าพฤติกรรมต่อต้านการฉีดวัคซีนของกลุ่มพยาบาลดังกล่าว ส่งผลกระทบให้ปัญหาขาดแคลนพยาบาลของโรงพยาบาลลูอิส เคาน์ตี้ รุนแรงมากขึ้น และว่ายังคงมีพยาบาลในแผนกเดียวกันอีก 7 คนที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีน และมีทีท่าว่าจะลาออกเช่นกัน
สิ่งที่เกิดขึ้น กดดันให้ทางโรงพยาบาลต้องประกาศไม่รับทำคลอดเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนนี้เป็นต้นไป
ผู้บริหารของโรงพยาบาลลูอิส เคาน์ตี้ แถลงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 13 กันยายน โดยระบุว่าทางโรงพยาบาลหวังว่าสำนักงานสาธารณสุขของรัฐ จะร่วมมือกับโรงพยาบาลในการหยุดให้บริการชั่วคราว แทนที่จะยุบแผนกสูติกรรมไปเลย”
นอกเหนือจากแผนกสูติกรรมแล้ว ข่าวบอกว่าแผนกอื่นๆ อีก 5 แผนกของโรงพยาบาลแห่งนี้ก็มีปัญหาเช่นกัน เพราะพยาบาลและเจ้าหน้าที่ขู่ว่าจะลาออกแทนการยินยอมฉีดวัคซีนตามที่รัฐกำหนด
“เรามีเจ้าหน้าที่ประมาณ 165 คนที่ไม่ฉีดวัคซีน โดย 73 เปอร์เซ็นต์ทำงานเกี่ยวกับการรักษาคนไข้ โดยทั้งหมดยังไม่ตัดสินใจว่าจะอยู่หรือจะไป” แถลงการณ์ของโรงพยาบาล ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 650 คน ระบุ
ข่าวบอกว่าหลังจากที่รัฐนิวยอร์ก มีคำสั่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา ให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ต้องฉีดวัคซีนภายในวันที่ 27 กันยายนนั้น ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลลูอิส เคาน์ตี้ ลาออกไปแล้ว 30 คน โดยเกือบทั้งหมดทำงานเกี่ยวข้องกับการรักษาคนไข้ เช่นพยาบาล นักบำบัด (therapist) และเจ้าหน้าที่เทคนิคฝ่ายต่างๆ
อย่างไรก็ดี คำสั่งของรัฐนิวยอร์ก มีผลให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแห่งนี้เข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสแล้วประมาณ 30 คนเช่นกัน.