ลูกค้าของร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ในลอส แอนเจลิส และเมืองใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย เช่น วอลกรีน, วอลมาร์ท หรือทาร์เก็ต ฯลฯ อาจจะเคยเห็นการเก็บสินค้าที่มีมูลค่าสูง หรือสินค้าอันตราย เช่นยารักษาโรค ฯลฯ ไว้ในตู้ล็อคกุญแจ หรือติดเครื่องกันขโมย แต่ที่ร้านไรท์เอด (Rite Aid) สาขาเมืองคอมป์ตันนั้น มีการยกระดับการป้องกันขโมยไปถึงระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์

เพราะ ไรท์เอด บนถนนลองบีช ในเมืองคอมป์ตันนั้น สินค้าทุกชนิดในร้าน ตั้งแต่ซีเรียล ลูกอม ขนมถุง กาแฟ ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ถูกล็อคแน่นหนาในตู้กระจก หากลูกค้าสนใจซื้อหรือชม ต้องกดกริ่งเรียกพนักงานมาเปิดตู้ให้เท่านั้น

“เหมือนทุกร้านในอุตสาหกรรมนี้ เราได้เห็นการขโมยของแบบไร้ยางอาย และการขโมยที่ทำเป็นกระบวนการเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา” ไรท์ เอด ระบุในแถลงการณ์ ถึงเครือข่ายเอบีซี “เราได้ทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือผู้รักษากฎหมายในการตามจับหัวขโมยเหล่านี้ โดยทำพร้อมๆ กับพยายามให้ข้อมูลความรู้กับผู้นำชุมชน ถึงผลกระทบจากปัญหาโจรกรรมในร้านค้าปลีก และร่วมกันหาทางออก”

เครือข่าย เอบีซี นำเสนอข่าวนี้เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2024 โดยสอบถามความเห็นของลูกค้าคนหนึ่ง ที่บอกว่ารู้สึกแปลกๆ เมื่อเข้ามาในร้าน

“มีอย่างเดียวที่ไม่ถูกใส่ตู้ล็อคเอาไว้ คือเครื่องดื่ม แต่อย่างอื่นทั้งร้านอยู่ในตู้หมด” ลูกค้าของไรท์เอด เมืองคอมป์ตัน กล่าว และว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เธอต้องรอประมาณ 7-10 นาทีหลังกดกริ่ง กว่าพนักงานจะเดินมาบริการ

“ฉันเข้าใจถึงปัญหา เพราะดูข่าวทุกวันเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าผลกระทบจะตกที่ฉันแบบนี้” ลูกค้ารายนี้กล่าว

ข่าวบอกว่าในช่วงปีที่ผ่านมา แม้ว่ารัฐแคลิฟอร์เนีย โดยผู้ว่าฯ เกวิน นิวซัม ได้สั่งการให้ส่วนปกครองท้องถิ่นเอาจริงกับการแก้ไขปัญหาโจรกรรมในธุรกิจค้าปลีก ทำให้เมืองลอส แอนเจลิส โดยนายกเทศมนตรี คาเรน บาสส์ จัดตั้งกองกำลังพิเศษสำหรับดูแลปัญหาโจรกรรมในธุรกิจค้าปลีกโดยเฉพาะ แต่เหตุการณ์บุกปล้น หรือการลักขโมยสินค้าด้วยวิธีการต่างๆ ยังคงเกิดขึ้น และปรากฎเป็นข่าว หรือมีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย แทบทุกวัน

ข่าวอ้างผลการศึกษาของสภาการบริหารงานยุติธรรม (the Council of Criminal Justice) องค์กรวิจัยที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง พบว่าปัญหาลักขโมยในธุรกิจค้าปลีกของสองเมืองใหญ่ คือลอส แอนเจลิส และนิวยอร์ก เพิ่มขึ้นมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ในช่วงระหว่างปี 2019 ถึงกลางปี 2013

เอบีซี บอกด้วยว่ากฎหมายของแคลิฟอร์เนียปัจจุบัน คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมมากจนทำให้ผู้ต้องหาในคดีอาญาแบบไร้ความรุนแรง อาจไม่ต้องรับโทษจำคุกระหว่างรอพิจารณาคดี ขณะที่ลอส แอนเจลิส เคานตี้ บังคับใช้นโยบายที่เรียกว่า Zero Bail Policy (เงินประกันตัวเป็นศูนย์) เพราะเห็นชอบตามกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่อ้างว่าระบบประกันตัวผู้ต้องหา เป็นความอยุติธรรมและเลือกปฏิบัติ เพราะผู้ต้องหาที่ยากจนเท่านั้น จึงจะติดคุก

อย่างไรก็ดี ปัญหาอาชญากรรมที่ทำให้แอลเอ และเมืองใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย มีภาพพจน์เป็น “บ้านป่าเมืองเถื่อน” ในปัจจุบัน ทำให้มีความพยายามที่จะคว่ำกฎหมายของแคลิฟอร์เนีย (Proposition 47) ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากประชาชนในปี 2024 เพราะเชื่อว่าเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด เพราะเป็นกฎหมายว่าด้วยการลดประชากรในระบบคุกของรัฐ โดยหาบทลงโทษผู้กระทำผิดแบบใหม่ (alternative sentencing methods) รวมถึงลดโทษผู้กระทำผิดในคดีที่ไม่ใช้ความรุนแรง รวมถึงการลักขโมย ยาเสพติด ลง ฯลฯ

โดยเชื่อว่าการเลือกตั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีร่างกฎหมายว่าด้วยการคว่ำกฎหมาย 47 (และเพิ่มบทลงโทษผู้ต้องหาในคดีที่ปราศจากความรุนแรง) ออกมาให้ชาวแคลิฟอร์เนีย ได้พิจารณากันอีกครั้ง.