นิวส์เนชั่น รายงานเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2024 ว่าบริษัท แลมบ์ เวสตัน ในไออาโฮ่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตมันฝรั่งรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกาเหนือ และเป็นผู้จัดส่งมันฝรั่งทอด (French fry supplier) รายใหญ่ที่สุดของแม็กโดนัลด์ ได้ประกาศปิดโรงงานที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ในเมืองคอนเนลล์ รัฐวอชิงตัน และมีการเลิกงานคนงาน 375 คน หรือ 4 เปอร์เซ็นต์ของแรงงานทั้งหมด

“แลมบ์ เวสตัน มีความเชื่อมั่นว่าโลกจะยังคงรักมันฝรั่งทอดต่อไป การปิดโรงงานที่เก่าแก่ของเราครั้งนี้ มีผลกระทบไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของการผลิตโดยรวมของเรา ดังนั้น การปรับตัวครั้งนี้ มีขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลย์ของดีมานด์เท่านั้น” โฆษกของ แลมบ์ เวสตัน ระบุ และว่าการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ จะทำให้แลมบ์ เวสตัน ประหยัดเงินได้เกือบ 55 ล้านดอลลาร์ในปี 2025

ทั้งนี้ ทอม เวอร์เนอร์ ผู้บริหารของ แลมบ์ เวสตัน กล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้ “ดีมานด์” มันฝรั่งในอเมริกา ถดถอยลง มาจากอาหารชุด 5 ดอลลาร์ ที่แม็กโดนัลด์ เริ่มใช้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เพื่อแก้ปัญหายอดขายตก และคนไม่เข้าร้านจากปัญหาอาหารราคาแพงตามสภาวะเงินเฟ้อครั้งประวัติศาสตร์ และค่าแรงที่ปรับสูงขึ้นตลอดเวลา

“ปริมาณคนเข้าร้าน และความต้องการมันฝรั่งทอดยังคงอ่อนตัวลงเรื่อยๆ และเราเชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนี้ไปจนสิ้นปีงบประมาณ 2025” ผู้บริหารของแลมป์ เวสตัน กล่าว

อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอาหารชุด 5 ดอลลาร์ของแม็กโดนัลด์ มีผลกับดีมานด์ของมันฝรั่งอย่างไร เนื่องจากดีลอาหารราคาประหยัดดังกล่าว ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทำให้ร้านสาขาของแม็กโดนัลด์ มีปริมาณคนเข้าร้านมากขึ้น และทำให้แม็กโดนัลด์ ประกาศยืดเวลาจำหน่ายอาหารชุดราคาประหยัดออกไปจนถึงสิ้นปี 2024 จากเดิมที่เป็นเพียง “โปรโมชั่นพิเศษ” ในเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียว

โดยมีผู้แสดงความเห็นว่า อาจเป็นดีลอาหารชุดราคาประหยัดของแม็กโดนัลด์ มาพร้อมกับมันฝรั่งทอดไซส์เล็ก ไม่ใช่ไซส์กลาง ดังนั้นจึงลดปริมาณการจำหน่ายมันฝรั่งทอดลงไปค่อนข้างมาก.