เดอะฮิลล์ รายงานเมื่อบ่ายของวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2024 ว่า ในวันดังกล่าว ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ “รีโพสต์” ข้อความของ ทอม ฟิทตัน หัวหน้ากลุ่ม จูดิเชียลวอช (Judicial Watch) ผ่านแพล็ตฟอร์ม TURE ของตัวเอง โดยข้อความดังกล่าว ระบุว่า

“ข่าวดี รายงานบอกว่าคณะทำงานชุดใหม่ของ @RealDonaldTrump เตรียมจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ และจะใช้ทรัพยากรทหาร เพื่อพลิกปัญหาการรุกรานในสมัยของไบเดน (to reverse the Biden invasion) ผ่านโปรแกรมการเนรเทศครั้งใหญ่” ข้อความของหัวหน้ากลุ่ม จูดิเชียลวอช ซึ่งเป็นกลุ่มขวาจัด ที่เคลื่อนไหวสนับสนุนทรัมป์ ทั้งในเชิงกฎหมายและการเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลมีเดีย (รวมถึงการไม่ยอมรับผลเลือกตั้งปี 2020) ระบุ

“แม้จะไม่ได้พูดเอง แต่การรีโพสต์ข้อความดังกล่าว เท่ากับเป็นการ ยืนยัน เรื่องนี้” เดอะฮิลล์ ระบุ

ท่าทีของทรัมป์ เกี่ยวกับโปรแกรมการเนรเทศผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายครั้งใหญ่ (mass deportations) ที่เขาใช้เป็นประเด็นหาเสียงมาตั้งแต่ต้นนั้น แม้จะเป็นเรื่องที่ทุกฝ่าย รวมถึงกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของผู้อพยพฯ ให้ความสนใจ แต่ที่ผ่านมา ทรัมป์ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเนรเทศผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายทั้งหมดในประเทศ ที่ข้อมูลปี 2022 ของกระทรวงโฮมแลนด์ ประเมินว่ามีมากกว่า 11 ล้านคน เพราะเห็นชัดเจนว่ามีอุปสรรค และขีดจำกัดมากมาย ทั้งในแง่กฎหมาย ระบบโลจสติก และงบประมาณ ฯลฯ รวมถึงเรื่องศีลธรรมด้วย

ในส่วนของ “กำลังทหาร” นั้น ข่าวบอกด้วยว่าที่ผ่านมานั้น มีเพียงกองกำลังป้องกันชาติ (the National Guard) สังกัดกระทรวงกลาโหม เพียงหน่วยงานเดียวเท่านั้นที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการป้องกันการลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดน  อีกทั้งเป็นการทำงานด้านเชิงสนับสนุนด้านโลจิสติก เช่นงานข่าวสารและการขนส่ง (transportation) ให้กับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานด่านศุลกากรและป้องกันชายแดน (U.S Customs and Border protection) เท่านั้น ไม่ได้ทำหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้ลอบเข้าเมืองแต่อย่างใด

เดอะฮิลล์ บอกด้วยว่าทรัมป์ เคยให้สัญญากับผู้สนับสนุนของเขาระหว่างหาเสียงครั้งหนึ่งว่า จะทำการเนรเทศผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายทุกคน โดยนำเอากฎหมายเก่าแก่ ชื่อ the Alien Enemies Act. (กฎหมายศัตรูชาวต่างชาติ) มาใช้ โดยกฎหมายที่อเมริกาเคยใช้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ฉบับนี้ อนุญาตให้มีการกักกัน หรือเนรเทศชาวต่างชาติที่อายุ 14 ปีขึ้นไปทุกคน หากผู้นั้นเป็นพลเมืองของประเทศที่เป็นคู่สงครามกับอเมริกา

อย่างไรก็ดี อเมริกาไม่เคยประกาศสงครามกับประเทศใด นับตั้งแต่ปี 1942 จนถึงปัจจุบัน

แม้ยังไม่เห็นความเป็นไปได้ที่โปรแกรม “เนรเทศครั้งใหญ่” ของทรัมป์จะเป็นจริงได้ แต่ข่าวที่มีการเสนอกันอย่างกว้างขวางเช่นนี้ ทำให้กลุ่มนักกฎหมายเพื่อสิทธิของผู้อพยพฯ ต่างก็ออกมาแสดงความกังวล

“เราไม่คิดว่าจะมีการจับกุมผู้อพยพเรือนหมื่นเรือนแสน อย่างน้อยก็ในช่วงแรกๆ ที่คณะทำงานของทรัมป์ เริ่มงาน พวกเขาไม่มีทางทำได้ทั้งในแง่ข้อจำกัดเรื่องสถานที่และเรื่องอื่นๆ” นักเคลื่อนไหวที่เดอะฮิลล์ บอกว่าเป็นองค์กรระดับ “ท็อป” ที่ทำงานด้านนี้ แสดงความเห็น

“แต่เขาจะเริ่มสร้างสถานที่ ซึ่งผมคาดว่าจะทำให้เกิดความตกใจ ความกลัวเกิดขึ้น กลัวว่าจะมีการบุกจับกุม (raids) เกิดขึ้น เพราะพวกเขาจะเริ่มทำข่าวแบบนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่ เพื่อกระจายความหวาดกลัวออกไป เป็นส่วนหนึ่งของยุทธวิธี ซึ่งจะทำให้ (ผู้อยู่ผิดกฎหมาย) ออกจากประเทศไปเอง (self-deport)” ความเห็นของนักกฎหมายเพื่อผู้อพยพฯ ระบุ.