เฮ! ยูเนสโกรับ “ต้มยำกุ้ง" เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้
แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : คนไทยได้เฮ หลัง "ต้มยำกุ้ง" ได้รับการ "ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ" ในการประชุมยูเนสโกที่ปารากวัย
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2024 ที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage: ICS-ICH) ครั้งที่ 19 ณ กรุงอาซุนซิออน สาธารณรัฐปารากวัย มีมติให้ขึ้นทะเบียน “ต้มยำกุ้ง” หรือ “Tomyum Kung” ในบัญชีรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity – บัญชี RL) ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 (2003 Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก
การขึ้นทะเบียนครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจของไทยและถือเป็นการสร้างความตระหนักรู้ในระดับสากลต่อคุณค่าและความสำคัญของ “ต้มยำกุ้ง” ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหาร ซึ่งถือเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีการสร้างสรรค์ให้เข้ากับวิถีชีวิตที่มีความแตกต่างหลากหลาย สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชุมชนเกษตรกรรมริมแม่น้ำลำคลองในภาคกลางของไทยตลอดหลายศตวรรษที่มีวัฒนธรรมการบริโภคอาหารผ่านการสังเกตและเรียนรู้จากธรรมชาติ สะท้อนถึงความเรียบง่าย และวิถีชีวิตที่พึ่งพิงธรรมชาติ พึ่งพาตนเอง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ในโอกาสนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีถ้อยแถลงผ่านวีดิทัศน์กล่าวแสดงความยินดีต่อการขึ้นทะเบียนต้มยำกุ้งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และย้ำความมุ่งมั่นของไทยที่จะสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ รวมถึงความพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับนานาประเทศในการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้
ปัจจุบัน ไทยได้ขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในบัญชี RL แล้ว 5 รายการ ได้แก่ โขน (ปี 2018) นวดไทย (ปี 2019) โนรา (ปี 2021) สงกรานต์ในประเทศไทย (ปี 2023) และต้มยำกุ้ง (ปี 2024).
ข้อมูล : สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส
นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส