เดอะฮิลล์ รายงานเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ว่าผู้พิพากษา แดบนีย์ ฟรีดริช แห่งศาลของรัฐบาลกลาง (U.S. District judge) ได้ประกาศว่า ข้อตกลงระหว่างสำนักงานจัดเก็บภาษี (IRS) และกระทรวงความมั่นคงภายใน เกี่ยวกับการแบ่งปันข้อมูลของผู้เสียภาษีที่เป็นผู้อพยพนั้น สามารถทำได้ โดยไม่ขัดหรือละเมิดกฎหมายว่าด้วยการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลกลาง ตามที่องค์กรเพื่อสิทธิของผู้อพยพสี่องค์กร ร่วมกันฟ้องร้องขัดขวาง เมื่อเดือนที่ผ่านมา

“สรุปว่า ไออาร์เอส จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลการชี้ตัวผู้เสียภาษีเท่าที่จำเป็น (เช่นชื่อและที่อยู่ของผู้เสียภาษี) เพื่อช่วยเหลือหน่วยงานอื่นๆ ในการสอบสวน และดำเนินคดีอาญาต่างๆ หาก ไออาร์เอส ยอมรับ ข้อเรียกร้องตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรมาล่วงหน้า” ผู้พิพากษาฟรีดริช ระบุในคำตัดสิน ซึ่งมีความยาวถึง 16 หน้ากระดาษ

โดยข้อตกลงระหว่างหน่วยงานของรัฐบาลกลางทั้งสองแห่ง ที่มีขึ้นเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2025 นั้น ระบุว่า ไออาร์เอส จะต้องแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ปัจจุบัน ของชาวต่างชาติที่ถูกคำสั่งเนรเทศออกจากอเมริกาภายใน 90 วัน ทั้งนี้เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมาย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผู้พิพากษาฟรีดริช บอกด้วยว่า มาตรา 6103 ในกฎหมายภาษีของรัฐบาลกลาง กำหนดให้ ไออาร์เอส เก็บรักษาข้อมูลการเสียภาษีของบุคคลเป็นความลับ แต่มีข้อยกเว้นบางประการ เช่นในกรณีที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางเรียกร้องข้อมูลบางอย่างเพื่อช่วยสอบสวนดำเนินคดีอาญา เป็นต้น

ทั้งนี้ ไออาร์เอส ถือเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับผู้อพยพที่ยังไม่มีเอกสารแสดงตัวที่ใหญ่ที่สุด เพราะนับจากเริ่มออกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี หรือ ITINs (individual tax numbers) ให้กับผู้อพยพที่ยังไม่มีหมายเลขประกันสังคมในปี 1966 เป็นต้นมานั้น จนถึงปี 2022 มีการออก ITINs ไปแล้ว 26 ล้านหมายเลข และแต่ละปีมีการยื่นขอหมายเลข ITINs เพื่อเสียภาษีไม่ต่ำกว่าสี่แสนหมายเลขทุกปี

ผู้อพยพที่ยังไม่มีหลักฐานแสดงตัว ต้องการยื่นเสียภาษีรายได้ เพราะเชื่อว่าสามารถใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นขอสถานภาพที่ถูกต้องในภายหลังได้.