อเมริกาและแคลิฟอร์เนีย
ประชาคมโลกกดดัน “ฟีฟ่า” ให้เจรจา “ทรัมป์” ก่อน “เวิร์ลคัพ2026”

แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : องค์กรนานาชาติกว่า 80 องค์กรร่วมทำหนังสือถึง ฟีฟ่า เพื่อให้แสดงท่าที “กังวล” ต่อทรัมป์ เกี่ยวกับนโยบายอิมมิเกรชั่นของเขา ก่อนถึงมหกรรมฟุตบอลโลก ในปี 2026


หน้ากีฬาของนิวยอร์กไทมส์ รายงานว่าเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2025 องค์กรนานาชาติมากกว่า 80 องค์กร ได้ร่วมกันทำหนังสือถึงฟีฟ่า หรือสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ เพื่อแสดงความวิตกกัลวลเกี่ยวกับนโยบายอิมมิเกรชั่นอันแข็งกร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจจะกระทบกับทีมฟุตบอลจาก 48 ชาติ รวมถึงกองเชียร์นานาชาติที่จะต้องเดินทางเข้ามาชมการแข่งขันในอเมริกาในปีหน้า

 มีทีมจาก 48 ชาติเข้าร่วมการแข่งขัน เมืองเจ้าภาพทั้ง 16 แห่งประกอบด้วย 11 แห่งในสหรัฐอเมริกา 3 แห่งในเม็กซิโก และ 2 แห่งในแคนาดา จะมีเจ้าภาพร่วมกันสามประเทศ คือแคนาดา แม็กซิโก

หนังสือของ 80 องค์กร แสดงความกังวลเกี่ยวกับทัวร์นาเมนท์ ที่จะมีขึ้นในหลายรัฐของอเมริกาสองประเด็น หนึ่งคือคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ ห้ามประชาชนจาก 12 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในอาฟริกาและตะวันออกกลาง เดินทางเข้าสหรัฐฯ ซึ่งมีผลในทางปฏิบัติแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา และสองคือความวิตกกังวลเกี่ยวกับการบุกจับกุมผู้อพยพโดยไอซ์ ในชุมชนผู้อพยพตามเมืองต่างๆ ซึ่งหลายเมือง รวมถึงลอส แอนเจลิส จะเป็นเมืองเจ้าภาพของมหกรรมฟุตบอลโลกครั้งนี้ หลายนัดด้วย

โดยหนังสือของกลุ่มต่างๆ รวมถึงกลุ่มด้านสิทธิมนุษยชน เช่น the American Civil Liberties Union และ the NAACP ฯลฯ นั้นต้องการให้ฟีฟ่า "ใช้อิทธิพลของตนเองในการกระตุ้นให้รัฐบาลสหรัฐฯ รับรองสิทธิพื้นฐานของนักท่องเที่ยว และแฟนบอลต่างชาติ ซึ่งจะเดินทางเข้ามาหลายล้านคน"

“หากฟีฟ่ายังคงนิ่งเงียบ  ไม่เพียงแต่จะมีผู้ได้รับผลกระทบหลายล้านคนเท่านั้น แต่แบรนด์ฟีฟ่ายังจะถูกใช้เป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ เพื่อกลบเกลื่อนชื่อเสียงของรัฐบาลที่เผด็จการมากขึ้นเรื่อยๆ” หนังสือกดดันฟีฟ่า ระบุ

อย่างไรก็ดี ข่าวบอกด้วยว่ายังไม่มีท่าทีตอบสนองใดๆ จากฟีฟ่าทั้งสิ้น

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จิอันนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า และประธานาธิบดี ทรัมป์ ได้พบปะเจรจากันที่ประเทศปารากวัย โดยทรัมป์ย้ำว่าแฟนบอลและทีมฟุตบอลจากทุกประเทศจะไม่มีปัญหาในการเข้าประเทศ แต่ก็ย้ำด้วยว่า “แฟนบอลจะประสบปัญหาเฉพาะในกรณีที่อยู่เกินวีซ่าหลังจบการแข่งขันแล้วเท่านั้น”

ขณะที่ เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี กล่าวเตือนแฟนบอลจากทั่วโลกเมื่อเดือนพฤษภาคม ว่าตนเองทราบดีว่ามหกรรมฟุตบอลโลก จะทำให้มีผู้คนหลั่งไหลมาเยือนจากเกือบร้อยประเทศ

“เราอยากให้พวกเขาดูเกม แต่เมื่อถึงเวลา พวกเขาจะต้องกลับบ้าน ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะต้องคุยกับ (คริสตี้) โนม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายใน” เจดี แวนซ์ กล่าว

ข่าวบอกด้วยว่า เรื่องอื้อฉาวในประเด็นสิทธิมนุษยชน ของประเทศเจ้าภาพฟุตบอลโลกนั้น ไม่ถือเป็นเรื่องที่ฟีฟ่าให้ความสนใจมากนัก เพราะฟุตบอลโลกปี 2022 ที่กาตาร์ ก็เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงคัดค้านขององค์กรนานาชาติที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน เพราะการ์ต้าถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสิทธิแรงงานต่างด้าวมาตั้งแต่ปี 2010.


จิอันนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า และประธานาธิบดี ทรัมป์ ได้พบปะเจรจากันที่ประเทศปารากวัย เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา



 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
631
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข