บทความ : ทหารหนุ่มเปิดใจ หลังถูก “ไอซ์” จับแบบทารุณ
ภาพพจน์ “เกสตาโป” ของไอซ์ ที่ทำงานรับใช้ “นาซีทรัมป์” ชัดเจนขึ้นทุกขณะจิต ล่าสุด ทหารผ่านศึกพิการวัย 25 ที่ถูกจับและกักตัวสามวันสามคืน แบบ “ไร้เหตุผล” ระหว่างขอผ่านด่านไอซ์ เพื่อเข้าไปทำงาน รปภ. ของไร่กัญชาเมืองคามาริลโล่ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนพฤติกรรมของไอซ์ ด้วย
โดย : ทีมข่าวสยามทาวน์ยูเอส
จอร์จ เรเตส ชาวอเมริกันโดยกำเนิด วัย 25 ปี เป็นหนึ่งในผู้ถูกจับกุมและกักขังโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอิมมิเกรชั่น หรือไอซ์ ระหว่างปฏิบัติการบุกจับกุมแรงงานต่างด้าวในฟาร์มกัญชาในเมืองคามาริลโล่ ของเวนทูร่า เคาน์ตี้ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
เรื่องนี้ กลายเป็นที่สนใจของประชาชนและกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั่วโลก เพราะนอกจากจะเป็นพลเมืองอเมริกันและเป็นทหารผ่านศึกษาที่พิการแล้ว จอร์จ เรเตส ยังถูกจับด้วยวิธีการรุนแรงขณะ “ขอผ่านด่าน” ของไอซ์ เพื่อเข้าไปทำงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของฟาร์มแห่งนี้ด้วย
แม้ว่าเรื่องนี้ จะกลายเป็นข่าวใหญ่ และกลุ่มสหภาพแรงงาน รวมถึงกลุ่มสิทธิมนุษย์ชน ฯลฯ จะพยายามเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือเต็มที่ก็ตาม แต่ก็ต้องใช้เวลาถึงสามวันเต็มๆ ก่อนที่ จอร์จ เรเตส จะได้รับการปล่อยตัวออกมาโดยไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ
ล่าสุด เรเตส ได้ออกมาพูดเป็นครั้งแรก ผ่าน “แถลงการณ์” ที่ส่งให้กับสื่อมวลชน โดยบอกชัดเจนว่าการจับกุมและกักกันของไอซ์ นั้น คือ "การละเมิดสิทธิพลเมือง" ของเขาอย่างรุนแรง
“ผมถูกเจ้าหน้าที่ ไอซ์ กักตัวอย่างผิดกฎหมาย ขณะเข้าไปรายงานตัวเพื่อทำงาน”
แม้จะพยายามบอก เจ้าหน้าที่ไอซ์ ที่ถือปืนจ้องมาที่เขา ว่า “เป็นคนอเมริกัน” และเป็นลูกจ้างของฟาร์มก็ตาม แต่เพราะใบหน้าและสีผิวที่บอกเชื้อสายลาติโน่ของเขา ทำให้ ไอซ์ เลือกที่จะปฏิบัติกับเขาแบบกักขฬะ ตะคอกสั่ง ฉีดสเปรย์พริกไทย ทุบกระจกรถ และกระชากลากตัวเขาออกจากรถแบบรุนแรงด้วย
“ผมระบุตัวตนอย่างชัดเจนว่าเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และเป็นลูกจ้างของฟาร์ม” เรเตส เขียน “แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางเพิกเฉย แต่ละคนตะโกนคำสั่งที่ขัดแย้งกัน แล้วก็จับตัวผมอย่างรุนแรง”
ระหว่างถูกควบคุมตัวเป็นเวลาสามวันโดยไม่ถูกตั้งข้อหาใดๆ นั้น เรเตส บอกว่าเขาไม่รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ ไม่ให้พบทนายความ ไม่มีใครบอกว่าถูกจับกุมเพราะอะไร อีกทั้งไม่ได้รับการรักษาพยาบาล หรือล้างเนื้อตัว ทั้งๆ ที่ร่างกายเต็มไปด้วย “แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย”
“นี่ไม่ใช่วิธีที่ชาวอเมริกันควรได้รับการปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารผ่านศึกที่รับใช้ประเทศชาติอย่างสมเกียรติ” เขากล่าว “ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ผมแค่พยายามไปทำงาน”
แถลงของจอร์จ เรเตส ฉบับนี้ บวกกับ “ความตาย” ของแรงงานคนหนึ่งที่เกิดขึ้นขณะไอซ์บุกจับกุมที่ฟาร์มกัญชาแห่งนี้ กำลังกลายเป็นหลักฐานสำคัญ ที่บ่งชี้ถึง “พฤติกรรมผิดกฎหมาย” ของไอซ์ ที่พยายามเร่งทำโควต้าการจับกุมให้มากที่สุดตามคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยไม่ใส่ใจกฎหมาย หรือระเบียบปฏิบัติใดๆ และทำให้หน่วยงานที่กำลังถูกเปรียบเป็น “เกสตาโป” หรือตำรวจนาซี ของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์รุนแรง จนหลายฝ่ายเชื่อว่า “น่าจะ” ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลง “อะไรบางอย่าง” ขึ้นในเร็วๆ นี้
“สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมไม่ใช่แค่ความผิดพลาด แต่มันเป็นการละเมิดสิทธิพลเมืองของผม” เรเตส ระบุ “มันเป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ และเป็นความล้มเหลวของระบบยุติธรรม”
เรเตสกำลังเรียกร้องให้มีการสอบสวนพฤติกรรมของ ไอซ์ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบุกจับกุมครั้งนั้นอย่างเต็มที่
“ผมต้องการให้เจ้าหน้าที่ที่เพิกเฉยต่อระเบียบปฏิบัติ และใช้กำลังกับผม ได้รับโทษ” เขาระบุ “และผมต้องการให้สาธารณชนได้รับรู้ความจริงว่าการบุกจับกุมครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ผู้อพยพเท่านั้น แต่ยังทำร้ายชาวอเมริกันด้วย”
เรเตส สรุปแถลงการณ์ของเขาด้วยการให้คำมั่นว่า เขาจะไม่ปิดปากเงียบ
“ผมได้รับใช้ประเทศนี้แล้ว และตอนนี้ ผมกำลังเรียกร้องให้ประเทศนี้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อผม”
ต่อปฏิบัติการอื้อฉาวของไอซ์ ที่ไร่กัญชาเมืองคามาริลโล่ นี้ กระทรวงความมั่นคงภายใต้ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ ไอซ์ โดย เทรซี่ แมคลาฟลิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้ออกแถลงการณ์สั้นๆ เมื่อวันอังคารที่ 15 กรกฎาคม ว่า “จอร์จ เรเตส ถูกจับกุมและได้รับการปล่อยตัวแล้ว”
แถลงการณ์ของแมคลาฟลินฉบับนี้ ไม่พูดถึงสาเหตุที่ทำให้ เรเตส ถูกกักตัวนานถึงสามวัน, ไม่แสดงความรับรู้เกี่ยวกับการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ หรือการละเมิดสิทธิพลเมือง ที่ชาวอเมริกันและผู้รักความเป็นธรรมทั่วโลกทวงถามแม้แต่น้อย
ตรงข้าม... คณะทำงานของทรัมป์ คนนี้ กลับบอกว่า "ถึงแม้จะยังไม่ถูกตั้งข้อหาใดๆ ในขณะนี้ แต่สำนักงานอัยการฯ กำลังพิจารณาคดีของเรเตส และบุคคลอื่นๆ ที่ถูกควบคุมตัวระหว่างปฏิบัติการตามหมายค้นของรัฐบาลกลางที่เมืองคามาริลโล อยู่
"ทั้งนี้เพื่อพิจารณาว่า ควรจะมีการตั้งข้อหาของรัฐบาลกลางกับคนกลุ่มนี้หรือไม่” แถลงของผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในระบุ.
จอร์จ เรเตส
|
นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส