เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2025 ซึ่งเป็นวันที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ที่ลุกลามจนถึงขั้นเกิดการปะทะต่อเนื่องเป็นวันที่สามนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์ข้อความลงบนทรูธ โซเชียล เกี่ยวกับเรื่องนี้ถึง 3 ครั้งโดยบอกว่าหากทั้งสองประเทศไม่หยุดยิง สหรัฐฯ จะไม่ยอมเจรจาภาษีนำเข้าสินค้าด้วย 

โดยนับจากวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ทั้งไทยกับกัมพูชา ต่างโดนภาษีตอบโต้ของทรัมป์ 36% เท่ากัน

ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความแรกว่าตนเพิ่งคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเรื่องหยุดสงครามกับไทย และกำลังจะโทรหารักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย เพื่อเจรจาเกี่ยวกับเรื่องนี้

“บังเอิญว่าเรากำลังเจรจาเรื่องค้ากับทั้งสองประเทศนี้อยู่พอดี แต่ผมจะไม่เจรจากับประเทศไหนเลย ถ้าพวกเขายังสู้รบกันอยู่” ทรัมป์ระบุ และว่า และตนกำลังพยายามทำให้สถานการณ์ซับซ้อน มันง่ายขึ้น 

“มีผู้คนเสียชีวิตไปเยอะมากในสงครามครั้งนี้ แต่มันทำให้ผมนึกถึงความขัดแย้งระหว่างปากีสถานกับอินเดีย ซึ่งเราจัดการให้มันหยุดได้สำเร็จ”

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันเดียวกันว่า การปะทะระหว่างไทยและกัมพูชา มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 30 ราย และทำประชาชนต้องหลบหนีจากถิ่นฐานมากกว่า 130,000 ราย ถือเป็น “การสู้รบที่เลวร้ายที่สุดระหว่างประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรอบ 13 ปี”

ต่อมาทรัมป์ได้โพสต์ข้อความที่สองว่าตนเพิ่งได้คุยกับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ทราบว่าไทยก็ต้องการให้มีการหยุดยิงเช่นกัน ซึ่งตนกำลังส่งข้อความนี้ให้กับกัมพูชา “เชื่อว่าการหยุดยิง สันติภาพ และความรุ่งเรืองกำลังจะเกิดขึ้น แล้วเราก็จะได้เห็นกัน!”

และล่าสุด ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความที่สามว่าได้แจ้งสิ่งที่ได้คุยกับไทยให้กับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาทราบแล้ว "ทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องการหยุดยิงและสร้างสันติภาพในทันที แล้วก็อยากกลับสู่ "โต๊ะเจรจาการค้า" กับสหรัฐฯ และว่าทั่งไทยและกัมพูชาต่างยอมที่จะเจรจากันทันทีเพื่อรีบหาทางหยุดยิง 

“และสุดท้ายก็คือสันติภาพ! เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ตกลงกับทั้งสองประเทศ ทั้งสองมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยาวนานและยิ่งใหญ่ หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะเข้ากันได้ดีไปอีกหลายปีในอนาคต เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย และสันติภาพมาถึงแล้ว ผมก็ตั้งตารอที่จะสรุปข้อตกลงการค้าของเรากับทั้งสองประเทศ!” ทรัมป์ระบุ.