เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2025 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวบนเวที U.S.-Saudi Investment Forum ซึ่งเป็นการประชุมด้านการลงทุนระหว่างสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบีย ที่วอชิงตัน ดีซี ว่าเขาสนับสนุนวีซ่า H-1B หรือวีซ่าแรงงานทักษะสูง เพราะมีความจำเป็นต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ทรัมป์ให้เหตุผลของการ “กลับคำพูด” ครั้งล่าสุดของเขาว่าแรงงานอเมริกันยังไม่สามารถเติมเต็มงานบางประเภทได้ โดยยกตัวอย่างโครงการขยายฐานผลิตชิป มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของบริษัทจากไต้หวัน (TSMC ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก) ในรัฐอริโซน่า ว่าเป็นโครงการที่จำเป็นต้อง “นำเข้า” แรงงานต่างประเทศหลายพันคน

ท่าทีดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบปีหลังจากรับตำแหน่งประธานาธิบดี ที่ทรัมป์ประกาศสนับสนุนโปรแกรมวีซ่าแรงงานทักษะจากต่างชาติ หลังจากที่ได้โจมตีว่าเป็นโปรแกรมที่แย่งงานชาวอเมริกัน  และพยายามกดดันให้ยกเลิกมาโดยตลอด

ทรัมป์บอกด้วยว่า เมก้าและอเมริกันหัวอนุรักษ์นิยมที่คัดค้านวีซ่า H-1B นั้นเป็นคนฉลาดและรักชาติมาก

“แต่พวกเขาไม่เข้าใจ คนของเราต้องได้รับการสอนก่อน” ทรัมป์กล่าว “บริษัทที่ลงทุนก้อนใหญ่ จำเป็นต้องนำคนมาจากประเทศตัวเองเพื่อเปิดและบริหารโรงงานให้ได้” 

การกลับลำแบบฉับพลันของทรัมป์ครั้งนี้ ข่าวบอกว่าน่าจะเป็นผลให้ทีมงานของเขาถึงกับ “ไปไม่เป็น” กันหลายคน เช่น รองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ ที่บอกว่าเทคโนโลยีควรเสริมกำลังให้ “แรงงานคอปกน้ำเงิน”  ไม่ใช่แทนที่ด้วยแรงงานต่างชาติ หรือ ส.ว. จอช ฮอว์ลีย์ ที่สนับสนุนค่าธรรมเนียมวีซ่า H-1B คนละ 100,000 ดอลลาร์ และ ส.ว.จิม แบงส์ ที่เสนอให้ยกเลิกโปรแกรม OPT (โปรแกรมอนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติทำงานชั่วคราว หรือฝึกงานในสหรัฐฯ ได้หลังเรียนจบ) 

หรือ ส.ส.มาร์จอรี เทย์เลอร์ กรีน ที่กำลังถูกทรัมป์ “หมายหัว” เพราะสนับสนุนให้มีการเปิดเผยเอปสตีน ไฟน์ ก็ได้สนับสนุนค่าธรรมเนียมวีซ่าแรงงานต่างชาติคนละ 100,000 ดอลลาร์ เพื่อกดดันให้บริษัทอเมริกันใช้วีซ่านี้น้อยลง ฯลฯ

ทรัมป์ยอมรับบนเวทีประชุมด้านการลงทุนระหว่างสหรัฐฯ และซาอุฯ ด้วยว่า การเปลี่ยนท่าทีมาผ่อนปรนแรงงานต่างชาติครั้งนี้ จะทำให้คะแนนนิยมของเขาในกลุ่มเมก้าตกต่ำลง 

“แต่สำหรับคนฉลาด คะแนนนิยมของผมขยับขึ้น” ทรัมป์พูด

แม้ว่าท่าทีต่อต้านผู้อพยพจะเป็นจุดแข็งที่ทรัมป์ใช้หาเสียงตลอดมา แต่ “ความเป็นจริง” ที่เกิดขึ้น ทำให้ทรัมป์มีท่าที “ผ่อนปรน” กับผู้อพยพเป็นระยะ เช่นเมื่อเดือนมิถุนายน เขาให้สัญญากับเกษตรกรและอุตสาหกรรมโรงแรม ว่าจะผ่อนผันแรงงานผิดกฎหมายในอุตสาหกรรมเหล่านี้ จากนั้นในเดือนสิงหาคม ทรัมป์ได้เปลี่ยนท่าทีเรื่องนักเรียนจีน จากเดิมจะเพิกถอนวีซ่าอย่างเข้มงวด มาเป็นอนุญาตให้นักเรียนจีน 600,000 คนเข้ามาเรียนต่อในสหรัฐฯ

และล่าสุด เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ทรัมป์พูดในรายการ Fox News ว่าคนอเมริกัน “ไม่มีทักษะบางอย่าง” เมื่อถูกถามถึงท่าทีเกี่ยวกับวีซ่าแรงงานทักษะสูง H-1B.