นิวยอร์กโพสต์ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2025 ว่ารัฐบาล โดยสำนักงานประมงและสัตว์ป่าของกระทรวงมหาดไทย กำลังจะเริ่มปฏิบัติการกำจัดนกเค้าแมวบาร์ด (Barred owl) มากกว่า 450,000 ตัวในรัฐทางฝั่งตะวันตก เช่นแคลิฟอร์เนีย, โอเรก้อน และวอชิงตัน เพื่อป้องกันการสูญพันธุ์ของนกเค้าแมวจุด (spotted owl) ซึ่งเป็นสัตว์พื้นถิ่นของรัฐแถบนี้
โดยนกเค้าแมวบาร์ด ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในรัฐฝั่งตะวันออก ตั้งแต่นิวอิงแลนด์ลงมาถึงฟลอริด้า อพยพเข้ามาทางฝั่งตะวันตกตั้งแต่ยุค 1990s เพราะสูญเสียพื้นที่อาศัยจากการพัฒนาเมือง เป็นนกที่มีขนาดใหญ่ ก้าวร้าว หวงถิ่น การแย่งอาหารและแย่งรัง ทำให้นกเค้าแมวจุด ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ามีจำนวนลดลงประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ (ระหว่างปี 1995-2017) จนมีการขึ้นทะเบียนนกเค้าแมวพื้นถิ่นของแคลิฟอร์เนียเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงสูญพันธุ์เมื่อปี 1990
โดยโครงการกำจัดนกเค้าแมวบาร์ดของสำนักงานประมงฯ จะใช้เวลานานถึง 30 ปี และใช้เงินทุนสนับสนุนสูงถึง 1.35 พันล้านดอลลาร์ สำหรับจ้างเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย รวมถึงบุคคลที่ผ่านการฝึกและสามารถจำแนกสายพันธุ์นก, ปืนและอุปกรณ์ต่างๆ เช่นจีพีเอส กล้องวงจรปิด อุปกรณ์เก็บข้อมูลประชากรนก รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับการทำวิจัย, การฟื้นฟูถิ่นที่อยู่และการอนุรักษ์พื้นป่า ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ได้ก่อให้เกิดการโต้เถียงอย่างหนักในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา รวมถึงความพยายามของวุฒิสมาชิก จอห์น เคนเนดี้ (รีพับลิกัน หลุยเซียน่า) ที่พยายามสกัดแผนนี้ในรัฐสภา แต่ร่างกฎหมายไม่ได้รับเสียงสนับสนุน
“นกเค้าแมวบาร์ด ไม่ได้ทำร้ายใคร มันแค่ทำในสิ่งที่ธรรมชาติสอน นี่เราจะเปลี่ยนธรรมชาติหรือ เราจะควบคุมสิ่งแวดล้อมกันถึงขนาดนี้เลยหรือ” ส.ว.เคนเนดี้ กล่าวว่า และว่า “นี่เราจะทำ DEI ให้นกเค้าแมวหรือไง”
โดย DEI หรือ Diversity, Equity, and Inclusion (ความหลากหลาย, ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม (Inclusion) กลายเป็นประเด็นสังคมในช่วง “แบล็คไลฟ์แมทเตอร์” หรือการเรียกร้องความเท่าเทียมที่เกิดขึ้นหลังการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟอยด์ ในปี 2020 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นความขัดแย้งทางการเมือง ระหว่างกลุ่มเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยม ถึงขั้นที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามคำสั่งบริหารเลขที่ 14151 หลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม เพื่อล้างโปรแกรม DEI ของรัฐบาลชุดก่อน.