เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2025 สำนักงานสัญชาติและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐ (USCIS) แถลงว่าค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับงานด้านอิมมิเกรชั่นหลายรายการ จะปรับเพิ่มขึ้นในปี 2026 เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ ตามที่กฎหมายงบประมาณ One Big Beautiful Bill ของทรัมป์ระบุ
“คำร้องขอผลประโยชน์ด้านอิมมิเกรชั่นใดก็ตามที่ประทับตราไปรษณีย์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026 เป็นต้นไป หากไม่ชำระค่าธรรมเนียมที่ถูกต้องในอัตราใหม่ จะถูกปฏิเสธทันที” USCIS ระบุ
ค่าธรรมเนียมที่ได้รับผลกระทบมีตั้งแต่การขอลี้ภัยไปจนถึงใบอนุญาตทำงาน และสถานะผู้ได้รับการคุ้มครองชั่วคราว (TPS)
ข้อมูลของ USCIS ให้รายละเอียดของการยื่นขอที่ถูกปรับขึ้นค่าธรรมเนียม ดังนี้
-ค่าธรรมเนียมใบสมัครลี้ภัยรายปี ซึ่งปัจจุบันถูกระงับตามคำสั่งศาล จะเพิ่มจาก 100 ดอลลาร์เป็น 102 ดอลลาร์
-ใบอนุญาตทำงาน (EAD หรือ work permit) สำหรับผู้ขอลี้ภัยครั้งแรก และผู้ขอ Parole ครั้งแรก จะเพิ่มจาก 550 ดอลลาร์เป็น 560 ดอลลาร์
-EAD สำหรับการต่ออายุหรือขยาย parole : 275 → 280 ดอลลาร์
-EAD สำหรับผู้ขอ TPS ครั้งแรก: 550 → 560 ดอลลาร์
-ต่ออายุหรือขยาย TPS EAD: 275 → 280 ดอลลาร์
-EAD ภายใต้แบบฟอร์ม I-131 ส่วนที่ 9 (re-parole): 275 → 280 ดอลลาร์
-ค่าธรรมเนียมการยื่นขอ TPS (แบบฟอร์ม I-821): 500 → 510 ดอลลาร์
ส่วนค่าธรรมเนียมที่ไม่เปลี่ยนแปลง ได้แก่
-ค่าธรรมเนียมใบสมัครลี้ภัยครั้งแรก (I-589): 100 ดอลลาร์
-EAD สำหรับผู้ขอลี้ภัยที่ต่ออายุ: 275 ดอลลาร์
-ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ย้ายถิ่นพิเศษเยาวชน (I-360): 250 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน USCIS กำลังปรับลดค่าธรรมเนียมที่เคยเพิ่มขึ้นอย่างมากสำหรับโปรแกรมวีซ่า EB-5 (วีซ่านักลงทุน) หลังผู้พิพากษาในโคโลราโดชี้ว่าการขึ้นค่าธรรมเนียมนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ค่าธรรมเนียมที่จะถูกปรับลดตามคำสั่งศาล คือ
-I-526 (คำร้องสำหรับนักลงทุนโครงการ EB-5) ลดจากกว่า 11,000 ดอลลาร์ เหลือ 3,675 ดอลลาร์
-คำร้องขอยกเลิกเงื่อนไขถิ่นที่อยู่ จากกว่า 9,500 ดอลลาร์ เหลือ 3,750 ดอลลาร์
-ค่าธรรมเนียม Regional Center Fee จากเกือบ 48,000 ดอลลาร์ เหลือ 17,795 ดอลลาร์.
ทั้งนี้ USCIS อยู่ภายใต้กระทรวงความมั่นคงภายใน (DHS) ซึ่งรับผิดชอบด้านระบบตรวจคนเข้าเมืองและการแปลงสัญชาติ กรีนการ์ด การลี้ภัย ใบอนุญาตทำงาน และสิทธิประโยชน์ด้านตรวจคนเข้าเมืองอื่นๆ.