บีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2025 ถึงงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Zoology ชี้ว่าสัตว์ป่าอย่าง แรคคูน กำลัง “น่ารัก” มากขึ้น จนกลายเป็นที่นิยมในฐานะสัตว์เลี้ยงมากขึ้นของชาวอเมริกัน

งานวิจัยฯ ซึ่งวิเคราะห์ภาพถ่ายของแรคคูน ที่มีการโพสต์บนโซเชียลมีเดียเกือบ 20,000 ภาพ พบว่าแรคคูนในเมือง มีจมูกสั้นกว่าแรคคูนในชนบท ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่าขั้นเริ่มต้นของการเป็นสัตว์เลี้ยง (the early stages of domestication) โดยบอกว่าการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ เคยพบในบรรพบุรุษของสุนัขและแมวในปัจจุบันด้วย

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใบหน้าเหมือนใส่หน้ากาก ชอบโผล่มาคุ้ยขยะหลังบ้าน จนถูกเรียกเล่นๆ ว่า “โจรหลังบ้าน” หรือ “แพนด้าขยะ” นั้น ปัจจุบันเริ่มปรับตัวกับชีวิตในเมือง รวมถึงคุ้นเคยกับมนุษย์มากขึ้น ถึงขั้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยม ขณะที่บางตัวสามารถสร้างชื่อเสียงบนอินเทอร์เน็ตได้ 

“แรคคูนตัวหนึ่ง กล้าหาญจนเรียกกลายเป็นดาว TikTok ในปีที่ผ่านมา หลังวิ่งข้ามสนามในระหว่างการแข่งขันเมเจอร์ลีกซอคเกอร์ที่ฟิลาเดลเฟีย” ข่าวระบุ

ความเปลี่ยนแปลงนี้ นักวิจัยบอกว่า “ไม่ใช่เพราะมนุษย์เลือกแรคคูน แต่เป็นเพราะแรคคูนเลือกมนุษย์” เหมือนเช่นการเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดในอดีต ที่เริ่มต้นจากการที่สัตว์ค่อยๆ ปรับตัวให้สามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ ไม่ได้เริ่มจากการที่มนุษย์เข้าไปแทรกแซง

“ขยะคือจุดเริ่มต้นที่แท้จริง เพราะสร้างโอกาสในการหาอาหารง่ายๆ ให้กับสัตว์ที่กล้าพอที่จะอยู่ใกล้คน” งานวิจัยระบุ และว่าเมื่อเวลาผ่านไป แรคคูนรุ่นหลังๆ มีการผสมผสานระหว่างความกล้าและความระมัดระวัง ลดการตอบสนองแบบสู้หรือหนี รวมถึงเปลี่ยนลักษณะทางร่างกาย ตามอาการที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า domestication syndrome ซึ่งรวมถึงลักษณะทางกายภาพ เช่น จมูกสั้น กะโหลกเล็กลง การเปลี่ยนแปลงสีขน รวมถึงมีนิสัยที่เชื่องมากขึ้น

“นักวิจัยเชื่อว่าการคัดเลือกโดยธรรมชาติ ไม่ใช่การผสมพันธุ์โดยมนุษย์ คือทำอธิบายว่าทำไมแรคคูนในเมืองถึงดูเหมือนกำลังเปลี่ยนแปลงไป” บทวิจัยสรุป.