ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 25 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณ ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ จังหวัดกรุงเทพ ที่จะมีการอ่านคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตกเป็นจำเลยนั้นโดยรอบพื้นที่หน้าศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มวลชนจำนวนกว่า 2,000 คนและอีกจำนวนหนึ่งต่างทยอยเดินทางเข้ามาจากหลายจังหวัดโดยมาปักหลักตามบริเวณริมถนนฝั่งตรงข้ามหน้า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและด้านหน้า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อีกจำนวนหนึ่ง

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมพุ่งชนจำนวนหลายกองร้อยได้มีการสนธิกำลัง เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ ความเรียบร้อยและคัดกรองไม่ให้บุคคลหรือมือที่สามเข้ามาก่อเหตุความวุ่นวายโดยมีการนำรั้วเหล็กมากั้น เพื่อที่จะให้ประชาชนที่มาให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้อยู่ในพื้นที่ที่ทางเจ้าหน้าที่กำหนดไว้ โดยมีเหล่าแกนนำพรรคเพื่อไทย สมาชิกในครอบครัวชินวัตร และแกนนำนปช. เดินทางมาให้กำลังใจจำนวนมาก

ต่อมาในเวลา 09.20.น.ภายหลังจากที่นายบุญทรง เตรินาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทาง เข้ารับฟังการอ่านคำพิพากษาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น ได้มีรถตู้ยี่ห้อVolkswagen ได้ขับเข้ามาภายในพื้นที่จนกระทั่งมวลชนที่มาให้กำลังใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่าง เข้าใจผิดคิดว่าเป็นรถของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งมวลชนจำนวนมากได้กรูเข้าไปล้อมรถและตะโกนส่งเสียงให้ กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าสู้ๆตลอดเวลาแต่ปรากฏว่ารถที่ผ่านมานั้นไม่ใช้รถของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทางมวลชนจึงกลับที่ยืนรอให้กำลังใจยังที่เดิม โดยที่ขณะนั้น ไม่มีรายงานข่าวว่านางสาวยิ่งลักษณ์อยู่ที่ใด

ต่อมาเมื่อเวลา 09.30.น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากทนายความของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอเลื่อนนัด การพิจารณาคดี โดยอ้างว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมีอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน แต่ศาลไม่เชื่อจึงได้มีการออกคำสั่งหมายจับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรทันที และริบค่าประกัน 30 ล้านบาท

โดย มวลชนที่มาคอยให้กำลังใจจำนวนมากนั้น หลังจากที่ทราบข่าวที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกศาลออกหมายจับนั้น จึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมากถึงเรื่องดังกล่าว โดยบรรดามวลชนที่มาให้กำลังใจยังคงปักหลักอยู่ บริเวณหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและบริเวณด้านหน้าศาลกันอยู่ ขณะที่ประชาชนบางส่วนก็ต่างเดินทางกลับบ้านหลังรู้ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางมาแล้ว

ด้านนายสมใจ พุ่มไฉยา ครูชำนาญการที่เป็นอีกคนหนึ่งที่มาร่วมให้ กำลังใจเปิดเผยว่าหลังจาก รู้ข่าวการออกหมายจับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวของตนเอง คิดว่าไม่มีความเป็นธรรมต่อตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เนื่องจากท่านก็แจ้งมาแล้วว่าป่วย ซึ่งการออกหมายจับในครั้งนี้ไม่มีความชอบธรรมตนพร้อมมวลชนต่างๆจะปักหลักอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนจะคอยให้กำลังใจอยู่ตรงนี้

ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงสนธิกำลังคุมเข้มการเข้าออกรอบบริเวณหน้าศูนย์ราชการเพื่อไม่ให้มือที่สามเข้ามาก่อเหตุซ้ำวายอีก

ต่อมาเมื่อเวลา 10.50 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่ทนายความของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีการขอเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาคดีแล้วจำนำข้าว ไปเป็นวันที่ 27 กันยายน บรรดามวลชนที่มาคอยให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่างเริ่มทยอยเดินทางกลับกันบ้างแล้วในบางส่วนโดยมวลชนรายหนึ่ง ได้บอกแก่ผู้สื่อข่าวเพียงว่าเดินทางกลับแล้วแต่จะกลับมาให้กำลังใจใหม่ในวันดังกล่าวคือวันที่ 27 กันยายนที่จะถึงนี้

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30.น.ขณะที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญากูดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีการอ่านคำพิพากษาคดี การระบายข้าวจีทูจี ที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ประดิษฐ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตกเป็นจำเลย โดยศาลอ่านคำพิพากษาจำคุกนายบุญทรง 42 ปี และชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 16,000 ล้านบาท มวลชนที่มายืนรอให้กำลังใจและรอคำตัดสินในครั้งนี้จำนวนหนึ่งประมาณ 200 คนหลังจากที่มีการตัดสินคดีเป็นที่สิ้นสุดแล้วบรรดามวลชนทั้งหมดต่างเริ่มทยอยกันกลับบ้านของตนเองโดยมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดในพื้นที่ต่างเก็บกวาดเศษขยะให้สะอาดเหมือนเดิม

ในขณะที่ทางมวลชนที่มาให้กำลังใจในครั้งนี้รายหนึ่งกล่าวว่าหลังจากที่รอฟังคำตัดสินแล้วก็รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไร ทั้งนี้เราได้มีการพูดคุยต่อมวลชนในแต่ละจังหวัดกันแล้วว่าต่อไปนี้คงต้องเลิกอย่างจริงจังแล้วหันกลับไปทำมาหากินกัน เนื่องจากว่าคนที่เรารักและเคารพได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วและก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับมาอีกเพราะตอนนี้ใครที่จะมาแทนที่ท่านไม่เห็นมีใครที่จะเหมาะสม

จากนั้นในเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายบุญทรง ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทำประวัติพิมพ์ผู้ต้องขัง ถ่ายรูป ตรวจร่างกาย จากนั้นจะนำตัวไปควบคุมยังเรือนจำกลางคลองเปรม เนื่องจำคุกของนายผู้ต้องขังเกินอำนาจการควบคุมของเรือนจำพิเศษกรงเทพฯ หลังจากนั้นเรือนจำกลางคลองเปรมจะส่งตัวไปยังเรือนแดนแรกรับของเรือนจำ ตามขั้นตอน โดยนายบุญทรงมีอาการเครียดจากการประกันตัว และมีโรคประจำตัวอย่าง ภูมิแพ้ ความดันโลหิตสูง

ขณะที่บรรยากาศในบ้านพักของนางสาวยิ่งลักษณ์นั้น ยังคงปิดเงียบ และยังไม่อาจทราบได้แน่ชัดว่านางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางไปที่ใด มีเพียงรายงานข่าวว่านางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางออกจากประเทศไทยผ่านทางเกาะช้าง ไปกัมพูชา สู่สิงคโปร์ และบินไปยังดูไบ สมทบกับพี่ชาย ทักษิณ ชินวัตรแล้ว ทั้งนี้ ทูตประจำยูเออียังไม่ทราบเหตุการณ์ดังกล่าว และพร้อมจับตาดูอย่างใกล้ชิด