รศ.ดร.ขุม นวลสกุล นักพูด นักวิชาการรัฐศาสตร์ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง มองปรากฏการณ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศไม่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กลับมานั่งเก้าอี้นายกฯ อีกรอบว่า เชื่อว่าเป็นการ “ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย" ของนายอภิสิทธิ์ หากสุดท้ายหลังเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ได้เป็นเช่นนั้น (ปชป.ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล) ก็คงพร้อมรับผลที่จะตามมา โดยเฉพาะหากไม่ได้ ส.ส.เกิน 100 ที่นั่ง อย่างที่ประกาศไว้ตั้งแต่แรก ก็คงต้องแสดงความรับผิดชอบ ลาออกจากหัวหน้าพรรค งานนี้ นายอภิสิทธิ์ "เดิมพันหมดหน้าตัก" เพื่อเป้าหมายคะแนนเสียงพรรค ปชป.เป็นที่ 1 เพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
รศ.ดร.สุขุม กล่าวต่อว่า หากหลังเลือกตั้ง คะแนนไม่เป็นอย่างที่คิดก็คงต้องมีการแก้เกมกันใหม่ โดยเฉพาะกรณีหากจะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ที่คุณอภิสิทธิ์อาจจะตัดสินใจแต่แรก ไม่รับตำแหน่งใดๆ หากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน ปชป. เนื่องอาจตัวคุณอภิสิทธิ์เอง เคยเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีมาก่อน อาจมีศักดิ์ศรีค้ำคออยู่ จะมารับตำแหน่งในรัฐบาลที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำคงยาก
"ดังนั้น จึงต้องหาจุดขายเก่าดั้งเดิมของ ปชป. คือ ต้านเผด็จการมาขาย ถือเป็นทีเด็ดเพื่อเอาชนะพรรคพลังประชารัฐ เพราะก็เหลือ 2 อาทิตย์สุดท้ายก่อนเลือกตั้งอยู่แล้ว" รศ.ดร.สุขุม กล่าว
อดีตอธิการดี ม.รามคำแหง กล่าาวอีกว่า ขณะในด้านของพรรคเพื่อไทย แน่นอนหวังได้คะแนนมาเป็นที่ 1 แต่ตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ที่ผ่านมาพยายามสร้างวาทกรรมให้คนพูดถึงอย่าง"อยู่กับเรากระเป๋าตุง อยู่กับลุงกระเป๋าแฟ่บ"เพื่อให้ประชาชนได้หวนคิดถึงผลงานเก่า ส่วนนโยบายใหม่ๆ ก็แทบไม่มีออกมา จะเรียกว่าหวัง"กินบุญเก่าก็ได้" ก็ไม่รู้จะใช้ได้ คนยังคิดถึงอยู่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เซียนการเมืองมองว่า พรรคเพื่อไทย ยังมาที่ 1 การเลือกตั้งครั้งนี้ อาจได้ 150 เสียง แม้เสียงยังมาเป็นที่ 1 แต่ก็ไม่รู้จะจับขั้วร่วมรัฐบาลกับใคร
"ส่วนพรรคอนาคตใหม่ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (ฟ้ารักพ่อ) คงหวังแต่คะแนน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เท่านั้น คงไม่สามารถหวัง ส.ส.เขตได้ ลักษณะคล้ายๆ พรรครักประเทศไทยของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่เคยทำได้" รศ.ดร.สุขุม กล่าว...
นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศว่า จะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ว่า ก็เป็นความเห็นของนายอภิสิทธิ์กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่อาจคิดว่า การเดินแผนลักษณะนี้ จะทำให้คะแนนเสียงเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ อาจดีมากยิ่งขึ้นก็เป็นได้ ส่วนคำถามว่า ประเมินอย่างไรว่า อะไรเป็นปัจจัยที่พรรคปชป.และนายอภิสิทธิ์ ตัดสินใจเดินแนวทางนี้นั้น ส่วนตัวไม่กล้าประเมิน เพราะพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็มีกลุ่มประชาชนที่สนับสนุนและไม่สนับสนุน เป็นทั้งด้านบวกและด้านลบอยู่แล้ว ต้องรอดูหลังเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ว่า ผลคะแนนแท้จริงจะออกมาเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ อาจคำนวณแล้วก็เป็นได้ว่า เดินเกมแนวทางนี้น่าจะเป็นคะแนนบวกมากกว่าลบ แต่ก็ต้องยอมรับว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ จำนวน ส.ว. 250 คน มีผล เพราะมีอำนาจไปเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่ง ปชป.ก็ต้องคิด แล้วยิ่งถ้า ปชป.ต้องไปจัดตั้งรัฐบาลรวมกับพรรคการเมืองอื่น ซึ่งแน่นอน ทุกพรรคก็ต้องมีความพยายามในการจับขั้วกันตามสภาพ เพื่อเป็นรัฐบาลให้ได้
นายประสาร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม มองไปข้างหน้าหลังเลือกตั้ง แน่นอนพรรคการเมืองทุกพรรค ก็ต้องมีความรับผิดชอบ ให้บ้านเมืองสามารถเดินไปข้างหน้า และต้องหลีกเลี่ยงจากความขัดแย้งที่มีมาอย่างยาวนานให้ได้ เนื่องจากอารมณ์ของสังคมไทยตอนนี้ ทุกคนในขณะนี้อยากเห็นบ้านเมืองสงบ และเดินไปข้างหน้าได้ ไม่ทะเลาะกันอีก หากมีพรรคการเมืองใดทำให้เกิดเงื่อนไขขัดแย้งอีก ก็จะกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาประชาชน ทั้งหมดจึงต้องดูกันต่อไป หลังทราบผลเลือกตั้งแน่ชัดแล้ว.
โดย ไทยรัฐออนไลน์