บีบีซีนิวส์ รายงานเมื่อวันที่ 27 มีนาคมว่า เพียงไม่ถึง 4 ชั่วโมงหลัง พรรคการเมืองอย่างน้อย 6 พรรคที่เรียกตัวเองว่า "ฝ่ายประชาธิปไตย" แถลงจับมือกันตั้งรัฐบาล 255 เสียง แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เปิดแถลงข่าวยืนยันว่ายังไม่หยุดเดินหน้ารวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้า พปชร. ระบุว่า วันนี้ผลคะแนนการเลือกตั้งยังไม่เป็นที่ยุติ ดังนั้น พปชร. จะดำเนินการหารือกับพรรคต่าง ๆ และเชื่อว่ายังมีเวลาเพื่อให้เกิดความรัดกุม โดยให้เป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนที่มาลงคะแนนเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่ง พชปร. ได้พูดคุยกับพรรคจำนวนหนึ่งมีทั้งพรรคใหญ่ พรรคเล็ก แต่ขอสงวนชื่อไว้ก่อนเพราะยังอยู่ในกระบวนการ
"วันนี้ถ้าพูดถึงเสียง ไม่มีกลุ่มไหนซีกไหนที่พูดได้จริง ๆ ว่ารวมเสียงข้างมากได้แล้ว เพราะ กกต. (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ ดังนั้นก็พูดได้ แต่ก็เป็นการเข้าใจของตัวเอง แต่ไม่ใช่อะไรที่เป็นทางการ" นายอุตตมกล่าวและว่า "ถ้าเกิดใบแดงขึ้นมา ก็เปลี่ยนได้เหมือนกัน"
หัวหน้า พปชร. ยังย้ำถึงความสำคัญของคะแนนนิยมหรือคะแนนรวม "ไม่ใช่ดูแต่เขต เพราะเป็นเสียงที่สะท้อนพี่น้องประชาชนทุกคนที่มาลงคะแนน" ส่วนจุดยืนในการร่วมงานยึดตามอุดมการณ์พรรคโดยอาจจะมีการปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับการเจรจาโดย พปชร. ใช้จุดยืนในการสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ในการหารือกับทุกพรรค
ด้านนายสนธิรัตน สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการ พปชร. แสดงความมั่นใจว่าจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และคิดว่ายังไม่ใช่เวลาในการมาประกาศชัยชนะ เพราะ กกต. ยังไม่ได้ประกาศคะแนนที่ชัดเจนออกมา ตัวเลขยังเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน ดังนั้นที่เกิดการรวมตัวกันแล้วสร้างความชอบธรรม ก็เป็นเพียงกลไกการเมืองที่จะแสดงความชอบธรรม แต่เป็นการแสดงความชอบธรรมที่ไม่มีตัวเลขที่ถูกต้องมายืนยัน
"เป็นการช่วงชิงเพื่อแสดงว่าพรรคของพวกเขาเป็นพรรคที่รวมเสียงได้ ทั้งที่การแถลงวันนี้ยังไม่รู้ว่าจะมีกี่พรรคกันแน่ เป็นการฉกฉวยในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้เกิดความชอบธรรม เพราะคะแนนที่ชัดเจนยังไม่ออกมา" เลขาธิการ พปชร. กล่าว
เลขาธิการ พปชร. ยังเรียกร้องให้สื่อมวลชนหยุดผลิตซ้ำวาทกรรม "พรรคฝ่ายประชาธิปไตย" โดยตั้งคำถามว่าสื่อจะมั่นใจได้หรือไม่ว่าการเรียกเช่นนี้เป็นหลักการที่ถูกต้องตามหลักการประชาธิปไตย
เขายังตั้งคำถามต่อไปว่า แล้วประชาชนที่เลือก พปชร. 7.9 ล้านเสียง จนมีเสียงสนับสนุนจากประชาชนทั้งประเทศมากที่สุด "แปลว่าคนเหล่านั้นไม่ต้องเคารพเสียงประชาชนเลยหรือครับ แปลว่าเสียงประชาธิปไตยหมายความว่าเพียงที่พวกเขาได้ประโยชน์เท่านั้นหรือ แล้วคนที่เลือก พปชร. ไม่มีสิทธิเสียงเลยหรือ”
เลขาธิการ พชปร. ยืนกรานว่า ประชาธิปไตยที่แท้คือการเคารพเสียงประชาชน เคารพแม้แต่เสียงคนเพียง 1 เสียง มันเป็นพื้นฐานประชาธิปไตยใช่หรือไม่ แล้วใช้สิทธิอะไรมาเปรียบตัวเองป็นฝ่ายประชาธิปไตย "ผมถือว่าเป็นการดูถูกประชาชนและเป็นการอ้างประชาธิปไตยเพื่อทำให้เกิดความแตกแยกอีกครั้ง"
นายสนธิรัตน์ระบุว่า วันนี้ไม่มีฝ่ายประชาธิปไตยและไม่มีฝ่ายเผด็จการ พปชร. ดำเนินการตามครรลองของประชาธิปไตย แต่พรรคเห็นว่าบุคคลที่เหมาะสมในสถานการณ์ปัจจุบันคือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และยืนยันว่า พปชร. เป็นพรรคประชาธิปไตย และเป็นประชาธิปไตยที่คิดถึงประชาชน พยายามอย่างยิ่งเพื่อให้ประเทศเดินไปได้ ไม่สร้างวาทกรรมแบ่งแยกให้เป็นคนละฝ่าย.