ใน 1 วัน เราควรถ่ายหนักกี่ครั้ง?
จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่พูดยากอยู่เหมือนกันว่าคนเราควรจะต้องถ่ายกี่ครั้งใน 1 วัน เพราะน่าจะมีความแตกต่างกันไปตามขนาดรูปร่าง อาหารการกิน และอายุของแต่ละคน
หากใครที่คอยสังเกตตัวเองได้ว่า ปกติแล้วจะถ่ายแค่วันละครั้ง และไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร อุจจาระไม่ได้แห้ง แข็ง เหนียว หรือมีสีที่ผิดปกติ (สีเหลืองเข้มไปจนถึงน้ำตาล) ก็สันนิษฐานได้ว่า ถ่ายหนักวันละครั้งก็คงจะเพียงพอแล้วสำหรับคุณ ในทางกลับกันหากคุณรู้ตัวว่าเป็นคนทานน้อย สังเกตว่าตัวเองถ่ายแค่ 2 วันครั้ง หรือคุณเป็นคนทานอาหารในแต่ละวันมาก ถ่ายวันละ 2 ครั้ง และไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรกับการถ่ายในแต่ละครั้ง ก็แสดงว่าคุณก็เหมาะกับจำนวนถ่ายเท่านั้น
ปัจจัยในการถ่ายของแต่ละคน ที่ทำให้จำนวนครั้งในการถ่ายในแต่ละวันไม่เท่ากัน
- ปริมาณน้ำที่ดื่ม ยิ่งดื่มน้ำมาก ก็จะยิ่งถ่ายบ่อย หรือง่ายขึ้น
- อายุที่มากขึ้น อาจทำให้การขับถ่ายทำได้ยากขึ้น
- กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน หากคุณลุกเหินเดินวิ่งอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงออกกำลังกายเป็นประจำ (คาร์ดิโอ) จะช่วยให้ขับถ่ายได้ง่าย หรือบ่อยครั้งกว่าคนที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไร อยู่นิ่งๆ หรือไม่ออกกำลังกาย
- อาหารที่ทาน คนที่ทานผักน้อย กากใยอาหารน้อย ก็จะมีโอกาสขับถ่ายได้น้อยครั้ง หรือขับถ่ายยากกว่าคนที่ทานผักผลไม้เป็นประจำ และคนที่ทานอาหารจำพวกแป้ง คาร์โบไฮเดรตในปริมาณมากเป็นประจำ ก็อาจขับถ่ายได้ยาก หรือน้อยครั้งกว่าคนที่ทานแป้งน้อยกว่า
- ประวัติการรักษาโรค อาจมีผู้ป่วยบางโรคที่ได้รับผลกระทบทำให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้ด้อยประสิทธิภาพลง เช่น โรคโครห์น ที่เป็นความผิดปกติเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ ทำให้เกิดการระคายเคือง และทางเดินอาหารบวม โรคลำไส้ใหญ่อักเสบชนิดเป็นแผล หรือไวรัสลงกระเพาะ ท้องเดินจากไวรัส เป็นต้น
- ปริมาณของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และ เอสโตรเจนในร่างกายของผู้หญิง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบขับถ่ายได้เช่นกัน เพราะพบว่าผู้หญิงบางคนจะถ่ายบ่อยกว่าปกติเมื่อเข้าใกล้ช่วงที่กำลังจะมีประจำเดือน เป็นต้น
- วิถีชีวิตของแต่ละคน บางคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในชั่วโมงเร่งรีบ อบู่บนถนนที่รถติด ต้องอยู่ที่ๆ จำกัดเป็นเวลานาน หรือไม่ชอบการขับถ่ายนอกบ้าน อาจมีพฤติกรรม “กลั้น” ไว้ก่อน ส่งผลให้จำนวนครั้งที่ถ่ายในแต่ละวันเปลี่ยนแปลง และมีปัญหาท้องผูกในภายหลังได้เช่นกัน