นายกฯปักษ์ใต้ จุฑาภรณ์ ไชยรัตนติเวช ลาตำแหน่ง
วัชรินทร์ จิตนาธรรม อาสา “รับไม้”
โดย : กฤติยา รักแต่งาม
หลังจากเดินทางกลับเมืองไทยทุกปี เพื่อทำหน้าที่เป็น “สะพานบุญ” นำเงินบริจาคของพี่น้องชาวแอล.เอ.กลับไปซื้อคอมพิวเตอร์พร้อมพรินเตอร์ให้กับโรงเรียนทางภาคใต้ที่ขาดแคลนอุปกรณ์การศึกษาค้นคว้า ครบแล้ว 14 จังหวัด ตามโครงการ “E-Library” นางจุฑาภรณ์ ไชยรัตนติเวช นายกสมาคมปักษ์ใต้ แคลิฟอร์เนีย ก็ประกาศแถลงข่าว “ล้างมือในอ่างทองคำ” ขออำลาตำแหน่งนายกที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ลุล่วงมาแล้วถึง 4 สมัย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. นางจุฑาภรณ์ ไชยรัตนติเวช นายกสมาคมปักษ์ใต้แห่งแคลิฟอร์เนีย เปิดบ้านพักตนเองในเมืองนอร์ธ ฮอลลีวูด เพื่อนัดสมาชิกในสมาคมมาประชุมใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อแถลงถึงวาระแห่งการถอดถอนตนเองออกจากตำแหน่งนายกสมาคม เนื่องจากเหตุผลหลายประการ โดยเฉพาะช่วงปีที่ผ่านมาทั่วโลกประสบภาวะวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ทำให้กิจกรรมสังคมทุกอย่างหยุดชะงัก ประกอบกับสมาชิกและบอร์ดอีกหลายคน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินงาน กำลังเดินทางกลับเมืองไทยแบบถาวร
นางจุฑาภรณ์ ไชยรัตนติเวช ชี้แจงว่า “...วาระของพี่ควรจะต้องจบลงได้แล้ว เหรัญญิกของเรา คุณยุพดี กาญจนศักดา และ ผู้ช่วยเหรัญญิก คุณลักขณา สุขุมานันท์ ก็กำลังจะกลับเมืองไทยเหมือนกัน ทั้งคู่ไปอยู่แบบถาวรเลย แล้วก็ไม่มีใครมาสืบสานงานต่อ สมาชิกอีกหลายคนที่ร่วมงานกันมาหลายปีก็กำลังจะกลับ ทุกคนก็มีเป้าหมายตอนรีไทร์แล้วว่าจะไปทำอะไร อย่างเลขาฯ ก็จะไปเลี้ยงหลาน ทุกคนไปเป็นปู่ เป็นย่า เป็นตา เป็นยาย กันแล้ว คือตัวสมาคมฯ ไม่มีคนทำหน้าที่ครบวงจร คนอื่นๆ ก็ปฏิเสธที่จะรับไม้ต่อ
...ตอนนี้ก็ได้แต่รอรุ่นลูกรุ่นหลานชาวใต้คนไหนที่จะเข้ามาก็มาได้เลย ยกทีมมา เราจะเป็นแบ๊คอัพให้ ทุกคนยังสนับสนุนคลื่นลูกใหม่ทุกอย่าง มาตอนนี้ก็จะมีความต่อเนื่องทางกฎหมายหลายๆ อย่าง แต่ถ้าไม่มีใครรับช่วงจริงๆ เราก็คงจะต้องแจ้งกับแบงค์ว่าชื่อบัญชีของสมาคมฯ นี้ต้องปิดลงแล้ว ซึ่งมันจะแสดงว่าความเป็นสมาคมอาจจะหายไป แต่ความเป็นเราที่ยังรวมตัวกันอยู่ ก็จะยังคงพร้อมใจกันช่วยงานต่างๆ อยู่เหมือนเดิม ทั้งงานวัด งานสังคมต่างๆ เท่าที่เราจะช่วยได้ พี่ก็คิดว่ามันน่าจะถึงวาระของตัวเองที่ควรจะลงจากตำแหน่ง มันเป็นการลงมาแล้วอย่างสบายใจ เพราะโปรเจ็คท์ที่เราทำสำเร็จลุล่วงสมบูรณ์แล้ว เราแจกคอมพิวเตอร์ไปครบ 14 จังหวัดภาคใต้ ตามเป้าหมายทุกประการ...
...พี่มีประชุมใหญ่วันนี้ก็อยากจะแถลงข่าวให้สังคมของเรารับทราบพร้อมกับสมาชิกทุกคน ว่า เงินในบัญชีของสมาคม เหลืออยู่ 20,951 ดอลลาร์ เป็นเงินที่เหลือจากเราจัดงาน ขายบัตร ขายรัฟเฟิ่ลในงาน “ราตรีชาวใต้” และสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับเงินจำนวนนี้ที่ได้รับความศรัทธาจากทุกคนในสมาคมฯ คือ จะนำไปสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ซึ่งกำลังจะสร้างขึ้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช $14,000 หนึ่งหมื่นสี่พันเหรียญ เงินส่วนที่เหลือจากนี้เราคงยังสำรองไว้ช่วยเหลือสังคมในกรณีอื่นๆ ซึ่งคุณกาญจนา กับคุณไพจิตร ทองทิพย์ ซึ่งเป็นคู่สมาชิกของสมาคมที่ทุกคนให้ความเชื่อถือและไว้วางใจเป็นผู้รับผิดชอบเก็บรักษา หลังจากที่เราจะไปปิดบัญชีในธนาคารของสมาคมฯ ค่ะ...” นางจุฑารัตน์ ไชยรัตนติเวช กล่าวในที่สุด
ต่อมาเมื่อวันอังคารที่ 23 มีนาคม นายวัชรินทร์ จิตนาธรรม อดีตนายกสมาคมปักษ์ใต้ ปี 1995-1996 ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นบอร์ดบริหารของสมาคมฯ ยื่นความจำนงค์ต่อนางจุฑาภรณ์ ไชยรัตนติเวช ว่า ตนจะขอ “รับไม้” เป็นรักษาการ นายกสมาคมไทยปักษ์ใต้ฯ ไว้ก่อน เพื่อรอให้มีผู้เหมาะสมในอนาคตจะเข้ามาอาสาดำเนินงานของสมาคมปักษ์ใต้
จากนั้น นายวัชรินทร์ จิตนาธรรม ได้แจ้งมายัง “สยามทาวน์ ยูเอส” เพื่อประกาศข่าว “อัพเดท” มายังพี่น้องทุกคน ว่าสมาคมปักษ์ใต้ แห่งแคลิฟอร์เนีย ยังมีรูปธรรมอยู่เหมือนเดิม
“...ผมช็อคไปวันนึง วันที่คุณจุฑาภรณ์ประกาศลาตำแหน่งผมยังคิดอะไรไม่ออก พอกลับมาบ้านคิดอยู่คืนนึง ไม่ได้ละ ผมไม่อยากให้สมาคมฯ ของเราหายไป สมาชิกของเราอีกหลายคนก็รู้สึกเหมือนกัน ผมเลยฟอร์มงานกันคร่าวๆ ก่อน ขออาสารับรักษาการแทน ส่วนเรื่องบัญชีในธนาคาร เราเปิดใหม่ได้ ภายใต้ชื่อสมาคมฯ เหมือนเดิม แต่ทีมบริหารใหม่ มีคุณกาญจนากับคุณไพจิตร ทองทิพย์ มาช่วยเป็นเหรัญญิกให้ เดือนหน้า วันที่ 16 คุณรัตนา สุวรรณวงศ์ จะมาช่วยเป็นเลขาฯ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ จะมีการจัดวางกันในการนัดประชุมครั้งหน้า ที่บ้านคุณกาญจนากับคุณไพจิตร และคิดว่าเราก็จะใช้บ้านของทั้งสองท่านเป็นศูนย์กลางการประชุมในครั้งต่อๆ ไป...”
อนึ่ง ผลงานเด่นๆ ของ นายวัชรินทร์ จิตนาธรรม สมัยเป็นนายกสมาคมปักษ์ใต้ฯ มีมากมาย เช่นนำพาสมาคมฯเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลต่างๆ เคยบริจาคเงินในนามสมาคมไทยปักษ์ใต้แห่งแคลิฟอร์เนีย สมทบทุนช่วยเหลือเมื่อภาคใต้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในปีที่เขาดำรงตำแหน่ง, จัดหาเสื้อผ้าร่วมสิบคันรถตู้ฝากไปกับเรือรบไทย “พุทธยอดฟ้า” ที่มาจอด ณ เมืองลอง บีช สู่ภาคอีสาน เมื่อยามเกิดภัยธรรมชาติพายุกระหน่ำสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในปีถัดมา, ส่งเงินให้มารดาตนซื้อข้าวสารอาหารแห้งลงเรือนำแจกผู้เดือดร้อนจากอุทกภัย ที่จังหวัดระนอง และ ฯลฯ