เดอะฮิลล์ รายงานเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2023 ว่าปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางน้ำ หรือ ไลฟ์การ์ด ที่เป็นมาตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิด-19 ใหม่ๆ ยังคงมีต่อเนื่องมาถึงหน้าร้อนของปีนี้ โดยข่าวอ้าวข้อมูลจากสมาคมไลฟ์การ์ดแห่งชาติ (the American Lifeguard Association) ว่านับจากปี 2020 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดประจำสระว่ายน้ำสาธารณะทั่วประเทศ ซึ่งเคยมีมากกว่า 300,000 คน ลดน้อยลงถึงสามในสี่
ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้สระว่ายน้ำหลายแห่งไม่สามารถเปิดให้บริการได้ หรือจำเป็นต้องลดเวลาให้บริการ หรือจำต้องให้บริการโดยไม่มีไลฟ์การ์ด คอยดูแลความปลอดภัย
นอกเหนือจากวิกฤตโควิด-19 จะเป็นปัญหาแล้ว สมาคมไลฟ์การ์ดฯ ยังให้ข้อมูลด้วยว่า การที่เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดจะต้องต่ออายุใบอนุญาต (recertified) ทุกสองปี ก็มีส่วนทำให้อเมริกาเกิดปัญหาไลฟ์การ์ดขาดแคลนเช่นกัน
เดอะฮิลล์อ้างช้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ด้วยว่า อเมริกามีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจมน้ำมากกว่าปีละ 4,000 คน หรือประมาณวันละ 11 คน โดยเด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบเป็นกลุ่มที่เสียชีวิตจากการจมน้ำสูงสุด (75 เปอร์เซ็นต์) โดยเกือบทั้งหมดเป็นการจมน้ำในสระว่ายน้ำ
นอกจากนี้ การเสียชีวิตเพราะจมน้ำ ถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับสาม ของชาวอเมริกันอายุต่ำกว่า 19 ปีด้วย
โดย ซีดีซี ได้จัดทำข้อมูลสัดส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจมน้ำในแต่รัฐ โดยเทียบกับประชากร 100,000 คน พบว่ารัฐอลาสก้า มีผู้เสียชีวิตเพราะการจมน้ำสูงสุดที่ 4.75 คนต่อประชากรแสนคน ตามมาด้วยฮาวาย 3.09 คนต่อแสนคน, หลุยเซียน่า (2.20 คนต่อแสนคน), ฟลอริก้า (2.03 คนต่อแสนคน), มอนทาน่า (1.96 คนต่อแสนคน)
ซีดีซี ได้แนะนำวิธีป้องกันเด็กจากอุบัติเหตุจมน้ำเอาไว้หลายประการ เช่นติดตั้งรั้วรอบสระน้ำ, คลุมสระว่ายน้ำ หรือติดตั้งอลาร์ม, หากมีงานสังสรรค์ ให้มอบหมายหน้าที่เฝ้าสระน้ำให้ผู้ใหญ่อย่างน้อยหนึ่งคน, ให้เด็กๆ ใส่เสื้อชูชีพ (life vest) ที่ได้รับการรับรองจาก ยูเอส โคสท์ การ์ด และเลือกขนาดที่เหมาะกับเด็ก, สอนเด็กว่ายน้ำ หากเป็นไปได้ให้เริ่มสอนตั้งแต่เด็กอายุ 1 ขวบ และผู้ปกครองควรเรียนรู้วิธีผายปอด หรือ CPR ฯลฯ.