เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2024 สตาร์บัคส์ แถลงว่าจะยกเลิกค่าใช้จ่ายเสริม (extra charge) สำหรับเครื่องดื่มที่ใช้ผลิตภัณฑ์แดรี ฟรี (dairy-free) แทนนม จากเดิมที่เคยคิดเพิ่มถึง 10 เปอร์เซ็นต์จากราคาปกติ ซึ่งค่าใช้จ่ายเพิ่มดังกล่าว อาจสูงได้ถึงแก้วละ 80 เซ็นต์

โดยระเบียบใหม่จะเริ่มมีผลในวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้

ข่าวบอกว่ากลุ่มผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่แพ้โปรตีนในนม ได้เรียกร้องให้สตาร์บัคส์ เลิกคิดเงินเพิ่มสำหรับเครื่องดื่มที่ใช้นมข้าวโอ๊ด (oat Milk) แทนนมสดมานานแล้ว แต่เชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่เพิ่งได้ยินและปฏิบัติตาม หลังจากที่ “ยอดขาย” ตกลงอย่างฮวบฮาบในช่วงที่ผ่านมา เพราะสภาพเศรษฐกิจหลังเกิดสภาวะเงินเฟ้อครั้งประวัติศาสตร์ ทำให้กาแฟของสตาร์บัคส์ ถูกมองเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยไป

นอกจากนี้ สตาร์บัคส์ ยังตกเป็นเป้าโจมตีขององค์กร PETA ที่สนับสนุนให้ประชาชนเลิกบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ รวมถึงนม และถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายโดยผู้บริโภคกลุ่มที่แพ้โปรตีนจากนม โดยกล่าวหาว่าการคิดค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์ทดแทนนมของสตาร์บัคส์ คือการเลือกปฏิบัติและไม่เป็นธรรมกับพวกตนด้วย

ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่ใช้ผลิตภัณฑ์ แดรี่-ฟรี เป็นทางเลือกทางเดียวของผู้ที่แพ้โปรตีนในนม หรือผู้ที่รับประทานอาหารแบบวีแกน รวมถึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่วไปด้วย ทำให้เครื่องดื่มใส่ nondairy milk เป็นที่นิยมมากเป็นอันดับสอง รองจากการใส่เอสเปรสโซ่ (a shot of espresso) เท่านั้น

ข่าวบอกว่าสตาร์บัคส์ เริ่มเสิร์ฟ nondaiy milk ตั้งแต่ปี 1997 โดยเริ่มจากการใช้นมถั่วเหลือง (soy milk) ก่อน จากนั้นในปี 2015 ได้เปลี่ยนมาใช้นมมะพร้าว (coconut milk) ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นนมอัลมอนด์ และล่าสุด ได้เปลี่ยนมาใช้นมข้าวโอ๊ด (oat milk) ตั้งแต่ปี 2021 จนถึงปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน สตาร์บัคส์ ได้แถลงว่าจะเลิกขายเครื่องลืมในไลน์ที่เรียกว่า Oleato หรือเครื่องดื่มผสมน้ำมันมะกอกในทุกสาขาของอเมริกา ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป

โดยสตาร์บัคส์ เริ่มจำหน่ายเครื่องดื่มผสมน้ำมันมะกอก ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากเครื่องดื่มของอิตาลี ตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และกลายเป็นเรื่องตลกบนโลกโซเซียลมีเดีย ตลอดมา โดยเฉพาะประเด็นที่ถูกมองว่า เครื่องดื่มประเภทนี้ คือ “ยาถ่าย” ชั้นดีด้วย

อย่างไรก็ดี สตาร์บัคส์ บอกว่าจะเลิกขายเครื่องดื่มไลน์ Oleato เฉพาะในอเมริกาเท่านั้น แต่ในหลายประเทศ เช่นอิตาลี, ญี่ปุ่น และจีน จะยังคงมีเครื่องดื่มผสมน้ำมันมะกอกต่อไป.