ซีเอ็นบีซีรายงานเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนว่า ประเทศจีนจะยกเลิกวีซ่าเข้าประเทศให้กับพลเมืองของ 9 ประเทศเป็นการชั่วคราว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2024 ถึง 31 ธันวาคม 2025 โดย 9 ประเทศดังกล่าว คือเกาหลีใต้ และกลุ่มประเทศยุโรปอีก 8 ประเทศ คือสโลวาเกีย นอร์เวย์ ฟินแลนด์ เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ อันดอร์รา โมนาโก และลิกเตนสไตน์

โดยนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าเหล่านี้ สามารถเข้าประเทศได้ไม่เกิน 15 วัน

ท่าทีดังกล่าว เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของรัฐบาลจีนที่จะดึงนักท่องเที่ยวเที่ยวให้เข้าประเทศมากขึ้น หลังตัวเลขนักท่องเที่ยวหดหายต่อเนื่องมาตั้งแต่เกิดวิฤตโรคระบาด โดยในปี 2019 หรือปีก่อนเกิดวิกฤตโรคระบาดนั้น จีนเคยมีนักท่องเที่ยวมากถึง 49.1 ล้านคน แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม ศกนี้ จีนมีนักท่องเที่ยวประมาณ 17.25 ล้านคนเท่านั้น

ข่าวบอกว่าที่ผ่านมา มาตรการ “ฟรีวีซ่า” ของจีนสามารถเพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยวอย่างได้ผล โดยบอกว่าในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2024 จีนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ 8.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 49 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเดียวกันของปี 2023 โดยมีนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศตามโปรแกรม ฟรีวีซ่า นี้ถึง 4.9 ล้านคน

นอกจากการยกเว้นวีซ่าแล้ว จีนยังประกาศเพิ่มเที่ยวบินจากยโรปในช่วงฤดูหนาวให้มากขึ้น หลังจากที่สายการบินหลักๆ ได้พากันลดเที่ยวบินไปจีนลง เพราะปริมาณนักท่องเที่ยวและปัญหาอื่นๆ ที่เกิดจากความเข้มงวดเกี่ยวกับการผ่านน่านฟ้า (airspace) ของรัสเซีย อีกทั้งยังพยายาม “ลดความปวดหัว” ของนักท่องเที่ยวนานาชาติระหว่างอยู่ในจีน ด้วยการบังคับให้แหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ทุกแห่ง ยอมรับบัตรเครดิตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ควบคู่กับการรับเงินสดด้วย

ข่าวบอกว่าหลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศขยายโครงการยกเว้นวีซ่าดังกล่าว ราคาหุ้นบริษัทท่องเที่ยวทั้งของจีนและของเกาหลีใต้ต่างพุ่งขึ้น โดยหุ้นทริปดอทคอม (Trip.com) ของจีนเพิ่มขึ้นกว่า 5% ส่วนหุ้นจินแอร์ (Jin Air) ซึ่งเป็นสายการบินของเกาหลีใต้ พุ่งขึ้นเกือบ 4%.