บทความ : "กฎหมาย 36” ชัยชนะของประชาชนและความพ่ายแพ้ของ เกวิน นิวซัม
"....ความน่าจะเป็นหลังกฎหมาย 36 ผ่านการบังคับใช้แล้วก็คือ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดบางประเภท และคดีลักทรัพย์มูลค่าต่ำกว่า 950 ดอลลาร์ จะต้องโทษคดีอาญา หรือ felony ที่มีการ “ติดคุกหัวโต” อย่างที่ควรเป็น ไม่ใช่แค่คดีลหุโทษ หรือ misdemeanor ที่ไม่ต้องถูกจำคุก แม้ว่าจะเป็นการทำผิดซ้ำสอง (หรือซ้ำยี่สิบ) อีกต่อไป..."
โดย : ทีมข่าวสยามทาวน์ยูเอส
แม้ว่าผลการเลือกตั้งใหญ่ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2024 จะชี้ชัดว่าแคลิฟอร์เนียยังคงเป็น “รัฐสีน้ำเงิน” อยู่ก็ตาม แต่สัดส่วนของชัยชนะที่รองประธานาธิบดี คามาล่า แฮร์ริส ได้รับเหนือ โดนัลด์ ทรัมป์ นั้น ถือว่า “แคบมาก” หากเทียบกับผลเลือกตั้งปี 2020 เมื่อครั้งที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงแข่งกับโดนัลด์ ทรัมป์
นอกจากคะแนนสนับสนุนผู้สมัครของเดโมแครต จะน้อยลงอย่างมากแล้ว ความเสื่อมของเดโมแครตในแคลิฟอร์เนีย ยังเห็นชัดจากร่างกฎหมาย 36 (Proposition 36) ที่ได้รับเสียง “เยส” ล้นหลามเกือบ 70 ต่อ 30 เปอร์เซ็นต์ ด้วย เพราะสะท้อนถึง “ความไม่ยอมรับ” แนวทางการบริหารงานของผู้ว่าการรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ที่ชื่อ เกวิน นิวซัม แบบชัดเจน
ด้วยว่าร่างกฎหมาย 36 ที่ เกวิน นิวซัม ออกมาคัดค้านสุดตัวฉบับนี้ ถูกร่างขึ้นมาเพื่อล้างนโยบาย “อ่อนข้อให้อาชญากรรม” หรือ soft-on-crime policies ของรัฐ ที่สร้างความเดือดร้อนใหญ่หลวงให้ประชาชนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
สาระของร่างกฎหมาย 36 ที่มีชื่อเต็มว่า กฎหมายลดทอนปัญหาโฮมเลส การติดยาเสพติด และการลักขโมย (the Homelessness, Drug Addiction and Theft Reduction Act) จะไปหักล้างบางส่วนของกฎหมาย 47 (ที่ผ่านความเห็นชอบของประชาชนในการเลือกตั้งปี 2014) โดยเฉพาะในส่วนของการ “เพิ่มโทษ” คดีอาญาบางชนิด รวมถึงคดีเกี่ยวกับยาเสพติด และลักขโมยข้าวของที่มีมูลค่าต่ำกว่า 950 ดอลลาร์ ซึ่งถูกกฎหมาย 47 จัดให้เป็นคดีมโนสาเร่
พวกเราที่นี่ทุกคน รวมถึงองค์กรผู้รักษากฎหมายทั่วรัฐ ต่างทราบดีว่า กฎหมาย 47 นี่แหละ คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเหตุการณ์บุกปล้นร้านค้าปลีก แบบที่เรียกว่า smash-and-grab robberies ทั้งร้านแบรนด์เนม, ร้านเสื้อผ้า, รองเท้า รวมถึงร้านค้าปลีกทั่วไปกันแบบ “รายวัน” ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เพราะคนร้ายเหล่านี้ทราบดีกว่าการบุกปล้นของพวกเขา หากไม่มีการทำร้ายร่างกายหรือมีอาวุธเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขาจะไม่ถูกจับ หรือไม่ติดคุก บางกลุ่มย่ามใจถึงขนาดลงมือปล้นโดยไม่ปิดบังใบหน้า หรือถึงขั้นถ่ายคลิปตัวเองเพื่อโพสต์ลงโซเชียลมีเดียอีกด้วย
ความน่าจะเป็นหลังกฎหมาย 36 ผ่านการบังคับใช้แล้วก็คือ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดบางประเภท และคดีลักทรัพย์มูลค่าต่ำกว่า 950 ดอลลาร์ จะต้องโทษคดีอาญา หรือ felony ที่มีการ “ติดคุกหัวโต” อย่างที่ควรเป็น ไม่ใช่แค่คดีลหุโทษ หรือ misdemeanor ที่ไม่ต้องถูกจำคุก แม้ว่าจะเป็นการทำผิดซ้ำสอง (หรือซ้ำยี่สิบ) อีกต่อไป
นอกจากนี้ กฎหมาย 36 ยังกำหนดให้ศาลเตือนผู้ต้องหาคดียาเสพติดว่าอาจต้องข้อหา “ฆาตกรรม” เพิ่ม หากยาหรือสิ่งเสพติด เช่นเฟนตานีล, เฮโรอิน, โคเคน และยาไอซ์ ที่ตนขายนั้น ส่งผลให้ผู้เสพเสียชีวิต
แต่ใช่ว่าจะมีแค่การเพิ่มโทษให้หนักขึ้นอย่างเดียว กฎหมาย 36 ยังกำหนดให้จัดตั้งคดีอาญา (felony) หัวข้อใหม่ เรียกว่า treatment-mandated felony หรือ “คดีอาญาที่ชำระล้างได้” ขึ้นมาด้วย โดยภายใต้คดีอาญาแบบนี้ จำเลยมีสิทธิ์เลือกเข้ารับการบำบัดรักษากับผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองโดยศาลแทนการติดคุก โดยจะมีกระบวนการสนับสนุนที่เรียกว่า therapeutic support มีที่พัก มีการฝึกอาชีพ และต้องผ่านโปรแกรมที่ออกแบบเฉพาะสำหรับจำเลยรายนั้นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กลับไปทำผิดแบบเดิม โดยเฉพาะการติดยาและเป็นโฮมเลส
เมื่อผ่านโปรแกรมบำบัดครบถ้วนตามที่ศาลสั่งแล้ว คดีของจำเลยรายนั้นก็จะถูกยกฟ้อง หรือ dismiss ไป
กระนั้นก็ตาม ผู้ว่าฯ เกวิน นิวซัม ก็ยังออกมาคัดค้านร่างกฎหมาย 36 แบบสุดตัว บอกว่าเป็นกฎหมายที่ too harsh หรือโหดร้ายเกินไป... แถมยังออกมาตัดพ้อหลังทราบผลเลือกตั้งด้วยว่า กฎหมาย 36 จะพาพวกเรากลับไปสู่เหตุการณ์จำคุกครั้งใหญ่ หรือ mass incarceration* ในยุค 1980s อีกด้วย
และสำหรับพวกเราในแคลิฟอร์เนียที่ต้อง “ซัฟเฟอร์” กับปัญหาอาชญากรรมมาหลายปี อาจจะ “สะใจ” ถ้ารู้ว่า จอร์จ แกสคอน อัยการของแอลเอ เคาน์ตี้ (Los Angeles County District Attorney) ซึ่งเป็นหนึ่งในคนเขียนกฎหมาย 47 นั้น ถูกชาวแอลเอ “เขี่ยทิ้ง” ในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย โดยเขาเสียเก้าอี้อัยการฯ ที่นั่งมาหลายปีให้กับ นาธาน ฮอชแมน จากพรรครีพับลิกัน ด้วยสัดส่วน 38.5 กับ 61.5 เปอร์เซ็นต์
แน่นอนว่า การเสียเก้าอี้อัยการของเคานตี้ที่มี “ผู้อพยพ” มหาศาลที่สุดในรัฐ ให้กับคนของโดนัลด์ ทรัมป์ แบบนี้ มองได้ว่าเป็น “อันตรายใหญ่หลวง” เหมือนกัน… แต่ดูเหมือนว่าแรงกดดันที่เกิดจากการไม่สนใจปัญหาประชาชนของเดโมแครตในซาคราเมนโต้ ทำให้ผู้ออกเสียงส่วนใหญ่มองข้าม “ภัยที่ยังมาไม่ถึง” นี้ไปแบบง่ายดาย
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้... หากเกวิน นิวซัม ยังเร่งรีบพิจารณาและหยิบไปปรับปรุงการทำงาน เราเชื่อว่าเส้นทางสู่การเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีของเขาในอีกสี่ปี (หรือแปดปี) ข้างหน้า... จะไม่สดใสเหมือนที่ควรเป็นอย่างแน่นอน...
…
*ล้อมกรอบ : mass incarceration หรือการจำคุกครั้งใหญ่ ที่ เกวิน นิวซัม พูดถึงนั้น เกิดขึ้นในสมัยประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน (รีพับลิกัน) ที่ประชากรคุกทั่วประเทศ เพิ่มพรวดจาก 329,000 คนเป็น 627,000 คน โดยสัดส่วนของคนคุกที่เพิ่มสูงสุดและกระทบกับครอบครัวมากที่สุดคือคนผิวดำ ซึ่งแน่นอนว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฯ นั่นเอง
|
เหตุการณ์กลุ่มคนร้ายบุกเข้าปล้นร้านค้าปลีกแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม ที่เกิดขึ้นแบบ "รายวัน" ในช่วงที่ผ่านมา กำลังจะหมดไปหลังกฎหมาย 36 ที่ผ่านการโหวต "เยส" โดยชาวแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 มีผลบังคับใช้
|
เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย
|
นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส