เอพี รายงานข่าวเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2024 ว่า แจ็ค สมิธ อัยการพิเศษของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ยื่นคำร้องต่อผู้พิพากษาศาลเขตของวอชิงตัน ดีซี ขอให้ยุติการพิจารณาคดีที่เขาเป็นโจทก์ยื่นฟ้องว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในข้อหาพยายามล้มล้างการเลือกตั้งปี 2020 โดยให้เหตุผลว่ากระทรวงยุติธรรมต้องปฏิบัติตามหลักปฏิบัติที่ระบุว่า "จะไม่มีการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีกับประธานาธิบดี ที่กำลังอยู่ในตำแหน่ง" อย่างเคร่งครัด
โดยทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี วัย 78 ปี ถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดเพื่อพลิกผลการเลือกตั้งปี 2020 ที่เขาแพ้ให้กับโจ ไบเดน และจัดการเอกสารลับทางราชการอย่างไม่ถูกต้องหลังจากออกจากทำเนียบขาว แต่การพิจารณาคดีทั้งสองถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดเมื่อทรัมป์ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในสนามเลือกตั้งประธานาธิบดี
สมิธได้ขอให้ผู้พิพากษาประจำเขต ยกฟ้องคดีล้มล้างการเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลว่า “เพื่อไม่ให้กระทบต่อผลประโยชน์ประเทศ"
“กระทรวงยุติธรรม มีนโยบายปฏิบัติอันช้านานบนพื้นฐานของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ
ที่ห้ามมิให้มีการฟ้องร้องในระดับรัฐบาลกลางและการดำเนินคดีอาญากับประธานาธิบดีคนใดคนหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีการยกฟ้องคดีดังกล่าวก่อนที่จำเลยจะเข้ารับตำแหน่ง"
สมิธกล่าว
ข่าวบอกว่า หากศาลเขตเห็นชอบให้ยกฟ้อง จะทำให้คดีดังกล่าวไม่ถูกหยิบยกมาพิจารณาอีก อย่างน้อยก็อีกสี่ปีที่ทรัมป์อยู่ในตำแหน่ง
แม้จะไม่ถูกดำเนินคดีโดยกระทรวงยุติธรรม แต่ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังต้องเผชิญคดีระดับรัฐอีกสองคดี คือ ในนิวยอร์กและจอร์เจีย โดยที่นิวยอร์ก นั้น ทรัมป์ถูกตัดสินว่ามีความผิดเมื่อเดือนพฤษภาคม จากความผิด 34 กระทงฐานปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจเพื่อปกปิดการจ่ายเงินค่าปิดปากให้กับสตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังโป๊ เพื่อไม่ให้เธอเปิดเผยเรื่องราวการมีเพศสัมพันธ์กัน ในวันก่อนการเลือกตั้งปี 2016 แต่คดีนี้ยังไม่ได้รับการพิพากษาโทษ เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาคำสั่งของศาลสูง เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ประกาศว่าอดีตประธานาธิบดี มีเอกสิทธิ์คุ้มครองจากการถูกดำเนินคดี
ส่วนในจอร์เจีย ทรัมป์ถูกตั้งข้อหากรรโชกทรัพย์จากความพยายามที่จะล้มล้างผลการเลือกตั้งปี 2020 ในรัฐนี้ แต่คดีดังกล่าวอาจถูกระงับไปก่อนเช่นกันในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 4 ปีจากนี้.