เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2024 ฝ่ายบริการนักศึกษานานาชาติ ของมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ (USC’s Office of International Services) ได้ส่งอีเมล์ไปยังนักศึกษาทุกคนที่ถือวีซ่า เอฟ-1 และ เจ-1 โดยแนะนำว่าให้นักศึกษากลุ่มนี้ รีบเดินทางกลับจากปิดเทอมฤดูหนาวให้เร็วที่สุด โดยบอกชัดเจนว่ามีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ หรือมีปัญหาติดขัดที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ผ่านพิธีสาบานตัวเป็นประธานาธิบดีแล้ว

“ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดเข้ารับหน้าที่เป็นสมัยที่สองในวันที่ 20 มกราคม 2025 และกำลังเป็นที่กังวลอย่างสูงว่า คณะทำงานของเขาจะมีท่าทีกับวีซ่านักศึกษา และวีซ่าท่องเที่ยวจากนานาประเทศอย่างไร” อีเมล์ของฝ่ายบริการนักศึกษาฯ ยูเอสซี ระบุ

ทั้งนี้ ทรัมป์ ได้ประกาศนโยบายของเขาชัดเจนในช่วงหาเสียงว่า จะยุติปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและการอยู่อย่างผิดกฎหมายของชาวต่างชาติอย่างจริงจัง รวมถึงประกาศว่า สิ่งแรกที่จะทำหลังสาบานตัวเข้ารับตำแหน่ง คือจะเนรเทศผู้อยู่อย่างผิดหมายทั้งหมด โดยจะใช้กำลังทหารเข้าช่วย

แม้จะยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เกี่ยวกับวีซ่านักเรียน แต่จากผลงานที่เขาเคยทำในสัปดาห์แรกหลังเข้ารับตำแหน่งสมัยแรก คือการลงนามคำสั่งบริหารให้ระงับวีซ่าเข้าประเทศของกลุ่มประเทศมุสลิมหลายประเทศ, เวเนซุเอล่า และเกาหลีเหนือ ซึ่งส่งผลกระทบใหญ่หลวงกับบรรดานักศึกษาจากกลุ่มประเทศเหล่านี้

ยูเอสซี เป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาที่มีนักศึกษาต่างชาติมากที่สุดของแคลิฟอร์เนีย คือกว่า 17,000 คน หรือมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ คือประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ เป็นนักศึกษาเชื้อสายเอเชีย

นอกจาก ยูเอสซี แล้ว ข่าวบอกว่าสถาบันการศึกษาชั้นแนวหน้าอีกหลายแห่งของอเมริกา ต่างก็มีท่าทีเช่นเดียวกัน รวมถึง เยล และ เอ็มไอที ที่แนะนำให้นักศึกษานานาชาติเร่งเดินทางกลับเข้าประเทศโดยเร็วที่สุด และแนะนำให้นักศึกษาฯ พกเอกสารสำคัญติดตัวขณะเดินทาง โดยต้องตรวจสอบเอกสารสำคัญต่างๆ ว่าครบถ้วนและไม่หมดอายุด้วยด้วย

ในกรณีของนักศึกษาของ ยูเอสซี นั้น ฝ่ายบริการนักศึกษานานาชาติ บอกว่าหากประสบปัญหาขณะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ให้โทรศัพท์ปรึกษากับสายด่วน “ยูเอสซี อิมมิเกรชั่น คลินิก ฮอทไลน์” ที่หมายเลข 213-740-7435 ทันที.