พวกเขาคือพนักงานขับรถเมล์ของเมืองพาซาดีน่า ที่ได้ช่วยชีวิตชาวเมืองพาซาดีน่า ให้พ้นอันตรายจาก อีตัน ไฟร์ มากกว่า 500 คน
โดยในทันทีที่ทราบว่า “อีตันไฟร์” ลุกโหมเข้ามาในย่านชุมชนเมื่อเย็นวันอังคารที่ 7 มกราคม อีราสโม่ รอดริเกซ หัวหน้าฝ่ายจัดเส้นทางของสำนักงานขนส่งมวลชนเมืองพาซาดีน่า เป็นคนแรกที่โดดขึ้นรถเมล์ และขับฝ่า “ไฟนรก” ไปยังที่พักคนชรา ชื่อ The Terraces at Park Marino ซึ่งตั้งอยู่บนถนนวอชิงตันและอัลทาดีน่า ทันที
เขาไปถึงในช่วงที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและพยาบาล ได้พาคนชราจำนวนมาก ออกมารออยู่บริเวณลานจอดรถของร้าน เซเว่น-อีเลเว่น ฝั่งถนนตรงข้ามกับอาคารที่พัก ในบรรยากาศยามเย็นที่คลุมไปด้วยควันและเขม่า รวมถึงไอร้อนจากไฟป่าที่ลุกลามเข้ามาใกล้ โดยคนชราส่วนใหญ่อยู่บนเก้าอี้รถเข็นและบนเปลเข็น เห็นได้ชัดว่าถ้าไม่มีพาหนะขนาดใหญ่อย่างรถเมล์มารับ ความสูญเสียใหญ่หลวงก็จะเกิดขึ้นแน่นอน
เย็นวันนั้น รถเมล์ประจำทางของเมืองพาซาดีน่า คันแรก สามารถช่วยชีวิตทั้งคนชราและเจ้าหน้าที่ของบ้านพักคนชรา ได้ประมาณ 95 คน
“พวกเราต้องเอาคนขึ้นรถเมล์ให้ได้มากที่สุด” รอดริเกซ เล่ากับผู้สื่อข่าวของ ซีบีเอส เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา “เบาะนั่งไม่พอก็ต้องนั่งกับพื้นไป ไม่ต้องสนใจรถเข็น ไม่ต้องสนใจไม้เท้า เอาคนขึ้นไปบนรถให้มากที่สุดก่อน”
อดัม โมไรร่า หัวหน้าฝ่ายซ่อมบำรุง ซึ่งเลิกงานไปแล้วในเวลานั้น แต่เมื่อเห็นเปลวไฟลุกโหมบนเนินเขาใกล้บ้านพักคนชรา ก็รีบกลับมาที่ทำงานทันที โดยเขากับเพื่อนๆ อีกสี่คน ได้ขับรถเมล์อีกสี่คันฝ่าควันดำและเปลวเพลิงไปรับกลุ่มคนที่ยังหลงเหลืออยู่ในบริเวณนั้น โดยรถเมล์เที่ยวนั้น พากลุ่มผู้อพยพและเจ้าหน้าที่ทั้งหมด รวมกว่า 500 คน ออกมาได้ในช่วงที่ไฟลามมาเผาร้านเซเว่น อีเลฟเว่น พอดี
อดัม โมไรร่า บอกว่าเขาพยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลผู้อาวุโส ที่หลายคนอยู่ในสภาพตื่นตกใจและสับสน
เล็ตตี้ โอเชา ผู้จัดการทั่วไปของสำนักงานขนส่งเมืองพาซาดีน่า บอกว่า ในคืนแห่งความวุ่นวายนั้น รถเมล์ของเมืองพาซาดีน่าจำนวน 11 คัน ได้ออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมของ อีตัน ไฟร์ ได้เป็นจำนวนมาก โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นนอกเวลางาน เกิดขึ้นโดยความสมัครใจของบรรดาคนขับรถเมล์ ไม่ได้เกิดจากคำสั่งของเธอ ในฐานะหัวหน้าของพวกเขาแต่อย่างใด
“พวกเขาคือฮีโร่ ฮีโร่ที่แท้จริง เพราะพวกเขาไม่เคยผ่านการฝึกในเรื่องแบบนี้มาเลย คือฝึกให้พาผู้โดยสารจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง แต่ไม่ใช่แบบนี้”
อีราสโม่ รอดริเกซ ปฏิเสธที่จะรับสมญา “ฮีโร่” บอกว่าเขาและเพื่อนทำในสิ่งที่ควรทำเท่านั้น…
ภาพจากคลิปวิดีโอที่เหล่าพนักงานขับรถเมล์ของเมืองพาซาดีน่าถ่ายเอาไว้ขณะ “ทำในสิ่งที่ควรทำ” และถูกนำออกเผยแพร่โดยเทศบาลเมืองพาซาดีน่า (และสื่อต่างๆ) นั้น น่าจะช่วยตัดสินได้ว่า พวกเขาสมควรได้รับสมญาว่า “ฮีโร่” หรือไม่….
Cr: City of Pasadena