เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2025 นางฆฎนาวดี กัลยาณมิตร กงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก้ ได้ให้สัมภาษณ์กับสยามทาวน์ยูเอส ถึงข่าวคราวที่ปรากฎออกมาว่า ในวันดังกล่าว สำนักงานอิมมิเกรชั่นและตรวจคนเข้าเมือง (ICE) จะมีการบุกจับกุมผู้อยู่ผิดกฎหมายในนครชิคาโก้ ซึ่งเป็นข่าวที่สร้างความสับสนและหวาดกลัวให้กับคนไทยบางส่วนค่อนข้างมาก

โดยกงสุลใหญ่ฯ กล่าวว่ายังไม่การจับกุมใดๆ เกิดขึ้นในวันดังกล่าว แต่ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ อยากจะแจ้งให้ชุมชนไทยอุ่นใจว่าเป้าหมายหลักของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะจับกุมและเนรเทศ คือกลุ่มผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายที่มีประวัติอาชญากรรมเท่านั้น ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าไม่มีคนไทยในกลุ่มนี้ หรือมีน้อยมาก

“สำหรับรัฐอิลินอยส์ และรัฐอื่นๆ รวม 11 รัฐ รวมถึงแคลิฟอร์เนียด้วย เป็น Sanctuary States หรือรัฐที่ปกป้องคุ้มครองผู้อพยพ คนในรัฐนี้ไม่จำเป็นต้องแสดงสถานะของตนเอง ถ้าเข้ามาประกอบสัมมาอาชีพ ทำประโยชน์ให้กับสังคม ให้ระบบเศรษฐกิจของรัฐนั้น หรือเมืองนั้น เราก็อยู่ได้โดยไม่ต้องหลบซ่อนแต่อย่างใด ตราบใดที่ท่านไม่ได้ทำความผิดก็ดำรงชีวิตได้โดยไม่ต้องกังวลอะไร”

อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์เช่นนี้ ทางสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก้ ก็ได้ดำเนินการหลายๆ อย่างเพื่อให้แน่ใจว่าคนไทย จะมีข้อมูลที่ถูกต้อง

“เรากำลังทำ Infographic ง่ายๆ เพื่อให้คนไทยที่อยู่เกินวีซ่าทุกคนได้ทราบว่าควรทำอย่างไร ในกรณีเผลอไปอยู่ใกล้ๆ ในบริเวณที่เขากวาดจับกุมคนชาติอื่น แล้วติดร่างแหไปด้วย เพื่อท่านจะได้รู้ว่ามีสิทธิ์อะไรบ้าง” นางฆฎนาวดี กัลยาณมิตร กล่าว และยกตัวอย่างสิทธิเบื้องต้นที่ผู้ถูกจับกุมทุกคนมีสิทธิ์ เช่นการร้องขอทนายความ ขอล่าม มีสิทธิ์ที่จะไม่พูด ไม่เซ็นเอกสาร ฯลฯ หรือกรณีมีเจ้าหน้าที่ ICE มาเคาะประตูบ้าน เราก็มีสิทธิ์ไม่เปิดประตู ไม่ตอบคำถาม ฯลฯ

“ในชุมชนเรามีคนที่ดูแลให้ความช่วยเหลือเรื่องนี้อยู่ หรือหากท่านติดต่อมาทางสถานกงสุลใหญ่ฯ เราก็มีรายชื่อของทนายความที่ว่าความฟรี เป็น pro bono lawyer ของแต่ละรัฐที่จะให้ความช่วยเหลืออยู่”

อีกประเด็นหนึ่งที่กงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก้ มีความห่วงใยก็คือการเผยแพร่ข่าวเท็จ ซึ่งอาจสร้างความสับสนและหวาดกลัวให้กับคนไทยที่กำลังอยู่ในสภาพเปราะบางได้

“เช่นหากถูกจับจะถูกถอนสัญชาติ สำหรับบางคนที่อยู่ระหว่างยื่นเรื่อง ซึ่งไม่ใช่เรื่องทำได้ง่ายๆ ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเกิดได้ยากมาก หรือบอกว่าจะมีการใช้กำลังทหารมากวาดจับไป แล้วเนรเทศไป ก็ขออนุญาตเรียนว่า ไอซ์ไม่ได้กวาดจับทุกคน แต่จะมีเป้าหมายอยู่แล้วว่าจะจับคนที่มีประวัติอาชญากรรม แล้วมันมี พรบ.ของสหรัฐฯ ที่ว่ากำลังทหารหรือกองกำลังป้องกันชาติ จะเข้ามาได้ในกรณีเกิดจลาจลเท่านั้น ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ก็บอกในพิธีสาบานตัวว่าจะประกาศให้ชายแดนเป็นบริเวณที่มีเหตุฉุกเฉิน ตรงนั้นก็อาจจะเป็นการใช้กำลังหทาร แต่ไม่ใช่ชิคาโก้ เพราะไม่มีเหตุฉุกเฉินอะไร”

กงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก้ กล่าวด้วยว่าตนขอให้ชาวไทยติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ และขอให้ฟังจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เช่นฟังจากสถานีข่าวต่างๆ หรือรับข้อมูลจากสถานทูต, สถานกงสุลใหญ่ฯ ซึ่งจะเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องมากที่สุด

โดยในส่วนของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก้นั้น ประชาชนสามารถติดต่อได้หลายช่องทาง เช่นโทรศัพท์ (ในวันและเวลาราชการ) 312-664-3129, หมายเลขฉุกเฉิน 773-294-5933 เว็บไซต์ https://cgchicago.thaiembassy.org/ อีเมล์ info.chi@mfa.go.th, และเฟสบุ๊ก RoyalThaiConsulateGeneralChicago

“สุดท้ายนี้ อยากเรียนว่าชุมชนไทย จะเป็นที่ชิคาโก้หรือที่ไหนก็ตาม ไม่ต้องตื่นตระหนกกับนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ เพราะเขาทำเพื่อกวาดล้างอาชญากรที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ค้ามนุษย์ และก่อการร้ายเป็นหลัก พวกอาชญากรที่ก่อความไม่สงบในสังคมของสหรัฐฯ เพราะฉะนั้น คิดว่าเรื่องการกวาดล้างอาชญากรไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ชุมชนไทยมีปัญหาอะไร จะทำให้เราดำรงชีวิตอย่างปลอดภัยด้วยซ้ำไป” กงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก้ กล่าวในที่สุด.