สำนักงานดูแลคนไร้บ้านของลอส แอนเจลิส (LA Homeless Services Authority) แถลงถึงผลการนับจำนวนโฮมเลส ปี 2025 ซึ่งดำเนินการระหว่างวันนที่ 18 ถึง 20 กุมภาพันธ์ 2025 พบว่าจำนวนคนไร้บ้านในแอลเอ เคาน์ตี้ ลดลง 4 เปอร์เซ็นต์เหลือ 72,308 คน นับเป็นปีที่สองที่จำนวนคนไร้บ้านลดลง
ส่วนในเขตเทศบาลเมืองแอลเอ ผลการนับฯ พบว่าประชากรโฮมเลสลดลง 3.4 เปอร์เซ็นต์เหลือ 43,699 คน ซึ่งสำนักงานดูแลคนไร้บ้านฯ ให้เครดิตความพยายามของ คาเรน บาสส์ นายกเทศมนตรี ที่ผลักดันโครงการ Inside Safe และ Pathway Home ซึ่งเป็นการลงทุนซื้ออาคาร เช่นโรงแรม อพาร์ทมนท์ บ้านร้าน ฯลฯ แทนการสร้างอาคารศูนย์พักพิงโฮมเลสขึ้นมาใหม่ ทำให้ย้ายโฮมเลสเข้าที่พักได้อย่างรวดเร็ว
“จำนวนคนไร้บ้านลดลงสองปีติดต่อกัน เพราะเราเลือกที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วนและปฏิเสธสภาพเดิมที่พังทลาย นั่นคือการปล่อยให้พวกเขาอยู่บนท้องถนนจนกว่าจะสร้างอาคารเสร็จ” คาเรน บาสส์ กล่าว
แม้ว่าผลการนับจำนวนโฮมเลส จะไม่ระบุรายละเอียดถึงเชื้อชาติ-สีผิว แต่ก็บอกรวมๆ ว่ากลุ่มลาติโน่ จะเป็นกลุ่มที่ประสบปัญหาไร้บ้านมากที่สุดในแอลเอ เคาน์ตี้ แต่หากเทียบสัดส่วนของประชากรทั้งหมดแล้ว คนผิวดำ ซึ่งมีสัดส่วนเพียงประมาณ 9 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในแอลเอ เคาน์ตี้ กลับมีผู้เป็นโฮมเลส สูงถึง 31 เปอร์เซ็นต์ของประชากรผิวดำทั้งหมด
ทั้งนี้ วิกฤตโฮมเลส เคยเลวร้ายที่สุดเมื่อปี 2023 ซึ่งผลการนับจำนวนฯ พบว่ามีโฮมเลสในแอลเอ เคาน์ตี้ ถึง 75,518 คน และในแอลเอ ซิตี้ ถึง 46,260 คน
ปี 2024 จำนวนโฮมเลสเริ่มลดลงเล็กน้อยเป็นครั้งแรก เหลือ 75,312 คนในเคาน์ตี้ และ 45,252 คนในแอลเอ ซิตี้ และลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่สองในปีนี้
ข่าวบอกว่าการทำงานช่วยเหลือโฮมเลสของเคาน์ตี้และซิตี้ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงกดดันของ เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐ และจากศาลของรัฐบาลกลาง ที่ออกมาตำหนิส่วนบริหารท้องถิ่นของแคลิฟอร์เนียอย่างรุนแรงว่าล้มเหลวในการแก้ไขวิกฤตโฮมเลส ทั้งที่ใช้จ่ายงบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนไป “หลายพันล้านดอลลาร์”.